เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
นางสาวพรทิพย์ จันสะอาด รหัส 52031390165

วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555

จีจ้าควงสามี แถลงรับท้องก่อนแต่ง5เดือน

จีจ้าควงสามี แถลงรับท้องก่อนแต่ง5ด.ขอพักงานเลี้ยงลูก2ปี
"จีจ้า-ญาณิน วิสมิตะนันทน์" ควงแฟนหนุ่ม "เหน่ง-เอเดรียน โรเบิร์ต" ผู้ช่วยผู้กำกับ และน้องชายของ นักร้องสาว "พาเมล่า บาวน์เด้น  ร่วมแถลงข่าว ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส  พร้อม​โชว์ท้องอายุครรภ์ประมาณ 5 เดือนให้ผู้ที่เข้ามาร่วมงานได้ร่วมชื่นชมแสดงความยินดีด้วย

ทั้งนี้ นางเอกสาว เผยว่า ตนและเอเดรียน รู้จักสนิทสนามกันมา  2 ปี ก่อนที่จะมาคบกันเป็นแฟน เมื่อช่วงเดือ​นตุลาคม ปีที่แล้ว  ซึ่งพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรับรู้ โดยถามไถ่เรื่องการแต่งงานมาตลอด​  กระทั่งเมื่อเดือนพฤาภาคม ที่ผ่านมา ถึงรู้ว่า ตัวเองตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน ทั้งคู่จึงตัดสินใจแต่งงานกันอย่างเรียบง่าย แต่ไม่มีการจดทะเบียนสมรส

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ จีจ้า  ตั้งใจจะพักงานแสดงก่อน 2 ปี เพื่อเลี้ยงลูกเอง หากได้โอกาสกลับมาแสดงอีก อยากรับบทบาทที่หลากหลายมากขึ้นส่วนกระแสสังคมไทยเรื่องท้องก่อ​นแต่ง มองว่าไม่เป็นไรถ้าจะมองว่าผิด คิดว่าการมีน้องเป็นเรื่องน่ายิ​นดีมากกว่า

ผงะ!พบศพนิรนามไร้หัว ลอยอืดทะเลสัตหีบ

ผงะ!พบศพนิรนามไร้หัว ลอยอืดทะเลสัตหีบ

พบศพนิรนามถูกตัดหัว ลอยขึ้นอืดโผล่ในน้ำทะเลด้านทิศใต้ เกาะหมู ต.สัตหีบ ตำรวจเร่งตรวจสอบ

ตำรวจ สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รับแจ้งจากเรือประมงชายฝั่งว่า พบศพลอยขึ้นอืดโผล่ในน้ำทะเลด้านทิศใต้ เกาะหมู ต.สัตหีบ จึงไปที่เกิดเหตุบริเวณหลังแนวเขื่อนกันคลื่น ห่างชายฝั่งออกไปประมาณ 2 ไมล์ทะเล พบศพชายนิรนาม ไม่ทราบสัญชาติ และอายุ เปลือยกายนอนคว่ำหน้าลอยโผล่เหนือผิวน้ำ สภาพศพไม่มีศีรษะ เน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 อาทิตย์

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันกู้ศพขึ้นจากทะเล ก่อนนำเข้าฝั่งส่งชันสูตรยัง โรงพยาบาลสัตหีบกิโลเมตรที่ 10 หาสาเหตุการเสียชีวิต โดยตำรวจระบุว่า จากสภาพศพที่พบ ยังไม่สามารถระบุว่า ผู้ตายเป็นคนสัญชาติใด ถูกฆาตกรรมด้วยสาเหตุใด จากการสันนิษฐานคาดว่า เป็นลูกเรือประมงที่ถูกฆาตกรรม ก่อนจะนำศพโยนทิ้งทะเลเพื่ออำพรางคดี ส่วนศีรษะที่ขาดหายไปต้องรอผลชันสูตรจากแพทย์ว่าถูกตัดหรือไม่

วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555

โชเฟอร์แท๊กซี่แจ้งความถูกสาวบังคับให้พาไปสวรรค์

โชเฟอร์แท๊กซี่แจ้งความ ถูกหญิงบังคับให้พาขึ้นสวรรค์

ตำรวจสหรัฐฯจับกุมน.ส.ลูมินตา เปริจ็อค วัย 30 ปี หลังบังคับให้คนขับแท๊กซี่มีเพศสัมพันธ์ด้วย และบังคับให้เขาปฎิบัติเซ็กส์รอบที่สาม แต่เขาปฎิเสธ จึงถูกน.ส.ลูมินตา ใช้มีดแทง

ตำรวจสหรัฐฯจับกุมน.ส.ลูมินตา เปริจ็อค วัย 30 ปี ฐานบังคับให้ผู้อื่นมีเพศสัมพันธ์ด้วย หลังจากนายนิโคเล่ สแตน อาชีพคนขับแท๊กซี่แจ้งความว่า เขาถูกน.ส.ลูมินา ซึ่งเป็นผู้โดยสาร ใช้แผนล่อให้เขามีเซ็กส์ด้วย โดยหลอกให้เขาช่วยแบกกระเป๋าขึ้นห้องของเธอในอพาร์ทเมนต์ และขอให้เขามีเซ็กส์กับเธอ เมื่อปฎิเสธ เธอได้ใช้มีดขู่และบังคับให้เขาแก้ผ้า และให้เขาร่วมเพศและทำออรัล เซ็กส์ ให้เธอ ก่อนที่เธอจะบังคับให้เขาปฎิบัติเซ็กส์รอบที่สาม แต่เขาปฎิเสธ จึงถูกน.ส.ลูมินตา ใช้มีดแทง

ด้านตำรวจกำลังสอบสวนว่า น.ส.ลูมินตา ได้ก่อเหตุดังกล่าวเพราะใช้ยาหรือไม่ ขณะที่โชเฟอร์แท๊กซี่บอกว่า ตอนนี้ ชีวิตเขากลายเป็นเรื่องน่าสลด เพราะเขากลายเป็นคนดังในท้องถิ่นไปแล้ว มีแต่คนพูดถึงแต่เขา ผู้คนไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงไม่ยอมมีเซ็กส์กับผู้โดยสารหญิงคนนี้ พวกเขาไม่รู้ว่ามันเป็นยังไงถ้าพวกเขาต้องอยู่ในสภาพถูกผู้หญิงบ้าใช้อาวุธมีดขู่อยู่ เหมือนเช่นเขา

รถตู้หลับในเสยท้าย18ล้อ-พระมรณภาพ1

รถตู้หลับในเสยท้าย18ล้อ-พระมรณภาพ1

เกิดเหตุรถตู้พุ่งชนท้ายรถพ่วง18ล้อที่จอดอยู่ริมถนนพิษณุโลก-นครสวรรค์ จนท.รุดตรวจสอบพบพระภิกษุมรณภาพคาที่คาดโชเฟอร์หลับใน

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก รับแจ้งเหตุรถตู้พุ่งชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 21 ถนนพิษณุโลก-นครสวรรค์ ต.บ่อทอง จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งรพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร  ใกล้กันพบรถตู้โตโยต้า สีขาวทอง ทะเบียน ออ 4388 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพด้านหน้ารถมุดอยู่ท้ายรถบรรทุกฮีโน่ พ่วง18 ล้อ ทะเบียน 75-8516 กรุงเทพมหานคร ที่เบาะหน้าด้านซ้ายมีศพพระภิกษุ 1 รูปติดคาอยู่ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้เครื่องตัดถ่างเหล็กนำร่างออกมาได้

จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่รถบรรทุกจอดพักเครื่องอยู่บริเวณไหล่ทางซ้าย จู่ๆรถตู้คันดังกล่าว ซึ่งมีผู้โดยสารมาด้วยประมาณ คน ก็พุ่งเข้ามาชนท้ายอย่างจัง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานคนขับอาจเกิดหลับใน ซึ่งหลังจากนี้จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สภาฯสั่งพักงาน ผอ.ศูนย์อนุรักษ์กระบือฯ

สภาฯสั่งพักงาน ผอ.ศูนย์อนุรักษ์กระบือฯ

สภา มรภ.อุตรดิตถ์ สั่งพักงาน ผอ.ศูนย์อนุรักษ์กระบือฯ พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณี"ควายเผือกบุญมา"

ศ.ดร.เกษม จันทร์แก้ว นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ เรียกประชุมด่วนกรรมการสภา มรภ.อุตรดิตถ์ 24 คน พร้อมเชิญนายวิรัตน์ จำนงรัตน์พัน ผู้ช่วยอธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ ในฐานะ ผอ.ศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย มรภ.อุตรดิตถ์ ให้ปากกรณี น.ส.นันทวรรณ เทพรักษา อาจารย์คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) อุตรดิตถ์ นำควายเผือกเพศผู้ชื่อ บุญมา อายุ 4 ปี ไปบริจาคให้กับศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย มรภ.อุตรดิตถ์ เพื่อให้ทำการอนุรักษ์และขยายพันธุ์ แต่ศูนย์กลับนำไปแลกกับควายเพศเมียแม่ลูก 2 ตัวของชาวบ้าน

โดยสภากล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเพื่อแสดงความรับผิดชอบของสภาซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้น นายสิทธิชัย หาญสมบัติ อธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ ได้เสนอต่อสภา 7 ข้อ

1.สั่งการให้นายวิรัตน์ จำนงรัตน์พัน ผู้ช่วยอธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ หยุดปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้ดูแลโครงการศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย จนกว่าจะมีการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเสร็จ

2.แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยให้มีการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน หากมีมูลความผิด จะดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนวินัยให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน

3.แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อสืบหาควายเผือกบุญมา โดยมี น.ส.นันทวรรณ เป็นคณะกรรมการด้วย และคณะกรรมการที่แต่งตั้งจะเป็นบุคคลที่ น.ส.นันทวรรณ เสนอมาก็ได้ และจะอำนวยความสะดวกในการสืบหาควายเผือกบุญมา

4.ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอความร่วมมือในการสืบหาควายเผือกบุญมาร่วมกับคณะกรรมการที่ น.ส.นันทวรรณ เสนอแต่งตั้งขึ้น

5.หากผลการสืบหาควายบุญมาประสบความสำเร็จ และมีความประสงค์จะซื้อคืนอธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ ยินดีจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยเงินส่วนตัว
6.ปรับปรุงระบบการบริหารงานของโครงการอนุรักษ์กระบือไทย ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และ

7.ในการดำเนินการข้างต้น อธิการบดี มรภ.อุตรดิตถ์ จะรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรให้คณะกรรมการสภาทราบทุกระยะ

ศ.ดร.เกษมกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องใหญ่และละเอียดอ่อนมาก เพราะมีผลกระทบต่อจิตใจของคนทั่วไป ยอมรับว่าอาจารย์รุ่นใหม่ของ มรภ.อุตรดิตถ์ มักจะไม่ค่อยศึกษากฎหมายระเบียบในการปฏิบัติ จึงทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้น

ซึ่งต่อไปจะกำชับให้ศึกษากฎหมายระเบียบให้มากยิ่งขึ้น และเรื่องที่เกิดขึ้นกับควายบุญมา จะให้เป็นความผิดพลาดครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายจะไม่มีเกิดขึ้นอีก นอกจากนี้จะชี้แจงต่อสื่อออนไลน์ทุกสื่อที่นำเสนอเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการทำงานใน มรภ.อุตรดิตถ์ ของ น.ส.นันทวรรณ อย่างแน่นอน

วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555

นักวิจัยชี้ พบโรคใหม่อาการคล้าย 'เอดส์' ในเอเชีย


สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นักวิจัยอเมริกาพบโรคใหม่คล้ายเอดส์ เผยเจอในประเทศไทยและไต้หวัน รายงานระบุว่าโรคดังกล่าวผู้ป่วยจะมีภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองทำให้ผู้ป่วยมีอาการคล้ายกับโรคเอดส์ คาดสาเหตุเกิดพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยก่อให้เกิดโรค
ทั้งนี้ นักวิจัยของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ หรือ NIH ของสหรัฐ เปิดเผยว่า โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองส่วนใหญ่จะเกิดในผู้ใหญ่ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยจะมีปัญหาระบบภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง ทำให้ร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ อาการป่วยคล้ายกับโรคเอดส์แม้ไม่ได้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีก็ตาม โรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อจากคนสู่คน
โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองชนิดนี้ ปรากฏครั้งแรกเมื่อปี 2547 พบผู้ป่วยในประเทศไทยและไต้หวัน จากการศึกษาผลวิจัยพบว่า ผู้ป่วยกว่า 200 คน จะสร้างสารที่เรียกว่าแอนตี้บอดี้ทำลายตัวเองขึ้นมาปิดกั้นสารโปรตีนในร่างกายที่จะช่วยยับยั้งการติดเชื้อต่าง ๆ ทำให้ร่างกายติดเชื้อโรคได้ง่าย ทำให้เชื่อว่าจะสามารถหาทางรักษาโรคนี้ได้ด้วยการพุ่งเป้าไปที่เซลล์ที่ผลิตแอนตี้บอดี้ทำลายตัวเอง

อึ้ง! ชายจีนอ้างเป็นหมอตรวจภายใน หลอกสาวมีเซ็กส์


  วันนี้ (25 สิงหาคม) สำนักข่าวจีน รายงานว่า สาวชาวจีนวัย 18 ปีเสียท่า ถูกชายอ้างตัวเป็นหมอ หลอกมีเพศสัมพันธ์ด้วย เพื่อตรวจภายในถึง 4 ครั้งด้วยกัน ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาเอาไว้ได้และอยู่ในระหว่างการดำเนินคดี

          รายงานระบุว่า เหยื่อสาววัย 18 ปี ทราบชื่อคือ เสี่ยวเซี่ย ทำงานอยู่ในเขตเสี่ยวซาน เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง อาศัยอยู่ห้องเช่ากับแฟนหนุ่ม เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่ต่อมาเธอรู้สึกเจ็บอวัยวะเพศเวลาที่มีเพศสัมพันธ์และมีอาการตกขาวผิดปกติ และสงสัยว่าตนเองป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จึงไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการ โดยแพทย์รักษาเพียงให้ยาเท่านั้น แต่อาการดังกล่าวก็ไม่หาย

          ต่อมาวันที่ 14 สิงหาคม เสียวเซี่ยเห็นใบปลิวโฆษณารับรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทุกชนิด เธอจึงโทรศัพท์ติดต่อและเดินทางไปยังคลินิก เมื่อไปถึงคลินิกซึ่งเป็นเพียงห้องเล็ก ๆ ไม่มีป้ายชื่อ และมีขวดยาตั้งอยู่ พบหมอเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี กล่าวอ้างว่าเป็นแพทย์แผนโบราณ มีตำรับยารักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาตั้งแต่บรรพบุรุษ จากนั้นหมอจึงบอกให้เธอถอดกางเกงออกเพื่อรักษา พร้อมกับระบุว่าเธอเป็นโรคเริมต้องรักษาทันที ไม่เช่นนั้นจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง เธอต้องฉีดยาทั้งหมด 5 เข็ม เข็มละ 260 หยวน (1,300 บาท) อาการจะดีขึ้นภายใน 2-5 วัน ซึ่งในวันนั้นเสี่ยวเซี่ยเสียค่าใช่จ่ายในการตรวจไป 1,800 หยวน (9,000 บาท)

          วันต่อมา เสี่ยวเซี่ยต้องทำการรักษาอีกครั้ง หมอบอกว่าต้องออกไปเอายาข้างนอกจึงนัดสถานที่ให้เธอไปรอที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เมื่ออยู่ในห้องพักหมอให้เหยื่อไปอาบน้ำ เนื่องจากยาจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น หลังจากตรวจภายในอีกครั้งหมอบอกกับเหยื่อว่า โรคที่เหยื่อเป็นนั้นเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ ถ้าจะรักษาให้หายขาดต้องใช้วิธีเดียวกันและให้รีบรักษาหากปล่อยไว้นานจะกลายเป็นมะเร็ง ด้วยความกลัวเสี่ยวเซี่ยจึงยอม ซึ่งขณะมีเพศสัมพันธ์เธอรู้สึกเจ็บปวดมาก แต่หมอบอกให้อดทนยิ่งนานยิ่งดี โดยในวันนั้นเสี่ยวเซี่ยกับหมอร่วมเพศกัน 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 30 นาที 

          หลังจากวันนั้น เสี่ยวเซี่ย ได้มารักษาด้วยวิธีแบบเดิมอีก 2 ครั้ง จากนั้น เสี่ยวเซี่ยก็เดินทางมารักษาที่คลินิกอีก แต่แพทย์กลับปฏิเสธบอกว่าต้องการพักผ่อน จึงบอกให้เหยื่อกลับไปรักษาที่บ้าน เหยื่อเกิดความสงสัยจึงเล่าให้แฟนหนุ่มฟัง แฟนหนุ่มจึงพาเธอเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

          จากการสอบสวนพบว่า ชายที่อ้างเป็นหมอคนดังกล่าวแซ่หวัง อายุ 36 ปี จบการศึกษาเพียงระดับประถม แต่มาเปิดคลินิกเพื่อหลอกเอาเงินจากลูกค้า เนื่องจากเหยื่อเป็นหญิงสาวหน้าตาดีผู้ต้องหาจึงข่มขืน ส่วนยาที่ฉีดให้กับเหยื่อนั้นคือเหล้าผสมกับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ แต่โชคดีที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายหวังมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีแล้ว

วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กดเงินเอทีเอ็ม 2,000 บาท ได้กระดาษเปล่า

กดเงินเอทีเอ็ม 2,000 บาท ได้กระดาษเปล่า

หนุ่มเมืองสมุทรปราการร้องทุกข์ตำรวจ หลังเกิดเหตุเบิกเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม 2,000 บาท แต่ได้ธนบัตรจำนวนพันบาทออกมาใบเดียว อีกใบเป็นแค่กระดาษเปล่า แต่ตรวจสอบยอดเงินในบัญชีถูกหักไปแล้วเต็มจำนวน

นายเจษฎา ลัดกระทุ่ม อายุ 26 ปี ชาวตำบลบางเมืองใหม่ อำเภอเมือง สมุทรปราการ เข้าแจ้งความกับตำรวจสมุทรปราการขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน กรณีนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม จำนวน 2,000 บาท แต่แบงก์พันกลับออกมาเพียงใบเดียว พร้อมด้วยกระดาษเปล่าอีก 1 ใบ แต่เมื่อตรวจสอบยอดเงินในบัญชีพบว่าถูกหักไปแล้ว 2,000 บาท

นายเจษฎา เล่าว่าเมื่อช่วงเทียงวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้ไปเบิกเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาประดิษฐ์สโมสร เยื่องตู้ยามจุดสกัดทวีทอง หมู่ 6 ตำบลบางเมืองใหม่ อำเภอเมือง สมุทรปราการ เพื่อเบิกเงินจำนวน 2,000 บาท โดยใช้บัตรเอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ หลังจากใส่รหัสเรียบร้อยได้กดจำนวนเงินที่ต้องการเบิก สักพักตู้ก็จ่ายเงินออกมาทางช่องรับเงินด้านล่าง เป็นธนบัตรใบละ 1,000 บาท อยู่ด้านบน หลังจากหยิบเงินออกมา ก็ต้องแปลกใจว่าทำไมธนบัตรด้านล่างจึงเล็กกว่า จึงได้คลี่ออกดูพบว่าไม่ใช้แบงก์พันแต่กลับเป็นกระดาษเปล่าที่ด้านหน้าสีดำ มีตัวเลขและ ภาษาอังกฤษเขียนคำว่า SCB 4251 และมีเส้นใต้สีขาวขีดเอาไว้ จึงได้ใช้บัตรใบเดิมกดตรวจสอบยอดเงินที่ตู้เดียวกัน พบว่ายอดเงินได้หายออกไปจากบัญชีจำนวน 2,000 บาท ตามที่กดเบิกครั้งแรก

จากนั้นได้โทรศัพท์ติดต่อไปทางธนาคารเจ้าของบัตร พนักงานได้แจ้งว่าขอตรวจสอบตู้เอทีเอ็มตู้ดังกล่าวก่อนโดยใช้เวลาในการตรวจสอบ 7 วัน จึงได้รอจนกระทั่งวันนี้ครบวันที่ 7 แล้ว จึงโทรศัพท์กลับไปสอบถามพนักงานของธนาคารได้แจ้งว่าตู้บริการเงินด่วนตู้ดังกล่าวทำงานเป็นปกติไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด พร้อมทั้งได้แนะนำให้นำหลักฐานทั้งหมดที่มีอยู่ไปแจ้งความร้องทุกข์ขอลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้ส่งเอกสารทั้งหมดกลับมาให้ทางธนาคารเพื่อตรวจสอบ โดยจะใช้เวลาประมาณ 3 วัน จึงได้นำกระดาษใบดังกล่าวมาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้าน ร้อยตำรวจโทฐากร เขียนสะอาด พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวว่ากรณีนี้ตั้งแต่เป็นตำรวจเพิ่งพบเป็นครั้งแรกที่ตู้บริการเงินด่วนจ่ายธนบัตรผิดพลาด จากแบงก์พันเป็นกระดาษเปล่า เชื่อว่ากระดาษใบดังกล่าวน่าจะเป็นกระดาษที่ใช้คั่นกลางระหว่างธนบัตรขนาดอื่น ๆ มากกว่า 

เบื้องต้น ได้รับเรื่องลงบันทึกประจำวันไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ผู้เสียหายนำหลักฐานไปแสดงต่อธนาคารต้นสังกัด ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรทางธนาคารต้นสังกัดน่าจะรับผิดชอบเพราะเป็นเงินเพียงเล็กน้อย และทางธนาคารต้นสังกัดต้องตรวจสอบตู้เอทีเอ็มตู้ดังกล่าวว่าเกิดผิดพลาดเพราะเหตุใด 

รวบแก๊งวัยรุ่นไล่ยิงกันกว่า20คน ยึดระเบิด-ปืนเพียบ

รวบแก๊งวัยรุ่นไล่ยิงกันกว่า 20 คน ยึดระเบิด-ปืนได้เพียบ

เจ้าหน้าที่รวบแก๊งวัยรุ่นกว่า 20 คน ก่อเหตุไล่ยิงกันในงานเจ้าพ่อกวนอู กลางเมืองอ่างทอง พร้อมของกลางมีด ระเบิด และอาวุธปืนหลายกระบอก นอกจากนี้ยังพบบางคนมีปัสสาวะสีม่วงด้วย

พ.ต.อ.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผกก.สส.ภ.1 จ.อ่างทอง กล่าวว่า ทางชุดสืบสวนตำรวจภาค 1 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในตลาดอ่างทอง ว่าทุกคืนจะมีแก๊งวัยรุ่นสวมหมวกไอ้โม่ง ควงอาวุธมีด ออกขี่รถจักรยานยนต์จำนวนหลายคันวนรอบตัวเมืองอ่างทองอย่างไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเมื่อเวลา 00.10 น. (25 ส.ค.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณงานเจ้าพ่อกวนอู พบวัยรุ่นใช้ปืนยิงกันภายในงาน และตามมายิงที่บริเวณร้านเซเว่นภายในตลาดอ่างทอง และหลบหนีไป

เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังค้นหาจนมาพบว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวเข้าไปหลบในบ้านหลังหนึ่ง จึงเข้าจับกุมจำนวน 21 คน อายุระหว่าง 16-27 ปีพร้อมอาวุธปืนขนาด .38 ไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอกปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 2 กระบอกปืนขนาด 11 มม.1 กระบอกปืนขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก,กระสุนปืนลูกซองจำนวน 8 ลูกลูกปืนขนาด .38 จำนวน 1 ลูกลูกปืนขนาด .22 จำนวน 1 ลูกระเบิดขวดทำเองแบบขว้าง จำนวน 1 ขวดมีดดาบ จำนวน 5 เล่มและมีดปลายแหลม จำนวน 4 เล่ม นอกจากนี้ยังพบบางคนมีปัสสาวะสีม่วง

พ.ต.อ. ไตรรงค์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวน ทราบว่า กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวมีชื่อแก๊งเอกบ้านแห” ได้ยกพวกมาล้างแค้นกับ แก๊งกอล์ฟวัดต้นสน” ซึ่งทั้งสองกลุ่มจะยกพวกเหตุทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำ และมักจะใช้อาวุธปืนไล่ยิงกันอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย

อธิการบดีแถลง หมดหนทางตามหาควายเผือก

อธิการบดีแถลง หมดหนทางตามหาควายเผือก

อธิการบดีขอโทษหมดทางหาควายเผือกบุญมาคืน อ้างแลกกับชาวบ้านเพราะเข้ากับฝูงไม่ได้  ด้านเจ้าของไม่พอใจคำชี้แจง แค่อยากรู้ชะตากรรมว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่


กลายเป็นข่าวที่กระทบกระเทือนจิตใจของประชาชนเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องราวเหตุการณ์ทวง “ควายเผือก” ที่ชื่อ “บุญมา” ซึ่งเป็นควายของคุณนันทวรรณ เทพรักษา อาจารย์อัตราจ้างสอน คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม  ที่ได้ร่วมกับเพื่อนไถ่ชีวิตและนำมาเลี้ยงไว้จนกระทั่งโต ก่อนจะมอบให้ทางมหาวิทยาลัย เพื่อส่งต่อให้ศูนย์อนุรักษ์กระบือไทย แต่กลับมีข่าวว่า ควายเผือกบุญมาถูกส่งโรงเชือด 

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมานายสิทธิชัย หาญสมบัติ อธิการบดีม.ราชภัฎอุตรดิตถ์ พร้อมด้วย นายวิรัตน์ จำนงรัตน์พัน ผู้ช่วยอธิการบดีฯ ในฐานะผู้รับผิดชอบศูนย์อนุรักษ์กระบือไทยแถลงข่าวว่า ทางสถาบันไม่ได้นิ่งนอนใจ และหลังจากทราบเรื่องก็สั่งให้ผู้รับผิดชอบเร่งติดตามว่าควายบุญมาอยู่ที่ไหน แต่ในวันนี้ตนต้องยอมรับว่าตนหาควายบุญมาไม่เจอแล้ว

หลังจากที่นางสาวนันทวรรณได้นำควายบุญมามามอบให้ ทางศูนย์ฯ ก็นำไปเลี้ยงรวมกับฝูงที่อยู่ในศูนย์ฯ กว่า 40 ตัว แต่ควายบุญมาไม่สามารถเข้ากับฝูงได้ เพราะมักขวิดไล่ควายตัวอื่น ๆ  คนดูแลจึงปรึกษากับนายวิรัตน์ และตัดสินใจว่า จะนำเอาเจ้าบุญมาไปแลกกับชาวบ้านที่ บ้านน้ำพี้ อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ จากนั้นควายบุญมาก็ถูกขายส่งต่อหลายเจ้าของ

อธิการบดี รู้สึกผิดมากที่เอาควายไปแลก โดยไม่แจ้งให้กับผู้บริจาครับทราบก่อนว่าจะยอมให้นำควายไปแลกกับควายตัวอื่นหรือไม่ และพยายามตามหาอย่างถึงที่สุด แต่ขณะนี้ก็ไม่ทราบชะตากรรม ทั้งนี้ยอมรับว่าเป็นความบกพร่องของสถาบัน ที่ทำอะไรไปโดยไม่คิดว่าจะส่งผลกระทบต่อจิตใจผู้นำมาบริจาค และทำให้ภาพพจน์ของสถาบันเสียหายในชั่วข้ามคืน


อย่างไรก็ตามสถาบัน ยืนยันที่จะดำเนินงานศูนย์อนุรักษ์กระบือไทยต่อไป เพราะคงไม่นำเรื่องควายบุญมาตัวเดียว มาเป็นเหตุผลหลักในการยุติโครงการนี้ จากนี้ไปจะทำเรื่องการรับบริจาคให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น ต้องมีการทดลองเลี้ยงก่อน หากไม่สามารถเข้าฝูงได้ก็ต้องมีการนำตัวส่งคืน 

ส่วนเรื่องผลกระทบต่อการทำงานของนางสาวนันทวรรณนั้น ตนอยากให้สบายใจได้ เพราะการต่อสัญญาจ้างขึ้นอยู่กับคณบดีในคณะ คงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการนำควายบุญมา มาบริจาคอย่างแน่นอน


ขณะที่ นางสาวนันทวรรณ ไม่พอใจในการชี้แจงของสถาบัน เพราะพูดแต่เรื่องเดิม ๆ ทำไมไม่พูดความจริงออกมาว่าเกิดอะไรขึ้นกับควายบุญมากันแน่ ตอนนี้อยากรู้ว่าควายบุญมายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ หากควายบุญมายังมีชีวิตอยู่ทำไมทาง ม.ราชภัฏอุตรดิตถ์ ติดต่อกับตนมาว่าจะขอชดใช้เงินคืนให้ ทั้งนี้อยากให้เรื่องนี้เป็นเคสสุดท้ายที่เกิดขึ้นกับตน

วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555

รวบเครือข่ายยาเสพติดเรือนจำ ยึดทรัพย์นับร้อยล้าน

รวบเครือข่ายยาเสพติดเรือนจำ ยึดทรัพย์นับร้อยล้าน

ตำรวจนครศรีธรรมราช บุกรวบเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำล็อตแรก เป็น อดีตผู้คุมเรือนจำเมืองคอน พร้อมภรรยาและเพื่อน รวม 3 คน ขณะที่ ปปส.บุกยึดทรัพย์หลายรายการมูลค่านับร้อยล้านบาท เตรียมเดินหน้าจับและตามยึดทรัพย์อีก 350 ล้านบาท

เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้( 23 ส.ค.)  พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช นำกำลังไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 8 เข้าจับกุม นายณัฐพล ระย้า อายุ 37 ปี ที่หมู่บ้านแกรนด์พาร์ค อดีตผู้คุมเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ที่ถูกคำสั่งให้ออกจากราชการเมื่อหลายวันก่อน หลังมีหลักฐานพัวพันกับการค้ายาเสพติด

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุด ไปจับกุม นางสรรุจี ระย้า อายุ 37 ปี ภรรยาของนายณัฐพล ขณะทำงานอยู่ที่ตึกกุมารเวช รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช

ขณะที่กำลังตำรวจอีกชุดไปจับกุม นางสาวสกาวเดือน ทิพย์แก้ว อายุ 25 ปี ที่บ้านหลังหนึ่งที่ ม.6 ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ปัจจุบันทำงานเป็นพนักงานของบริษัทประกันภัย ซึ่งทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชีให้กับเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช

จากนั้นได้คุมตัว นายณัฐพล ระย้า ไปทำการยึดทรัพย์เป็นบ้านพัก 2 หลัง มูลค่า 3.5 ล้านบาท และ 1.5 ล้านบาท รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุดีแม็ค 1 คัน,รถยนต์เก๋ง มาสด้า 1คันนิสสันเทียน่า 1 คัน ซึ่งซื้อมาด้วยเงินสดทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังอายัดบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆอีก 3 เล่ม มีเงินในบัญชีกว่า 6 ล้านบาท ที่ดินในอำเภอฉวางอีก 2 แปลง อาวุธปืนพร้อมกระสุน และ ยึดทรัพย์สินมีค่าต่างๆภายในบ้านทั้ง 2 หลังอีก จำนวน 30 รายการ รวมมูลค่าทั้งหมดเกือบ 100 ล้านบาท และยังพบว่ามีการเตรียมแพ็คเก็บข้าวของย้ายบ้านหนีแต่ถูกจับได้เสียก่อน

อย่างไรก็ตาม หลังสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ยังให้การปฏิเสธ และยืนยันว่าทรัพย์สินทั้งหมดซื้อมาจากเงินที่ได้จากการขายที่ดิน และบ้านหลังเก่า เงินกู้จากสหกรณ์ของ รพ. ไม่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด

ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า การจับกุมและยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดครั้งนี้ ตำรวจมีการรวบรวมพยาน หลักฐานเสนอศาลออกหมายจับผู้พัวพันเครือข่ายยาเสพติดเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชแล้ว 8 คน และจะทยอยออกหมายจับอีก 15 คน ในเร็วๆนี้ ซึ่งวันนี้ได้ลงมือจับกุมยึดทรัพย์ก่อน 3 คน โดย 1ใน 3 คือ นายณัฐพล ระย้า อดีตผู้คุมเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือที่ถูกออกหมายจับอีก 5 คน และคนอื่นๆกำลังทยอยตามจับกุมและตามยึดทรัพย์ไปเรื่อยๆ คาดว่าจะมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท ตามที่ ป.ป.ง.เคยออกมาแฉก่อนหน้านี้ หรือาจจะมากกว่านี้ก็ได้ 

วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555

รถร่วมนรกทับหัวสาวดับสยองกลางปากเกร็ด

รถร่วมนรกทับหัวสาวดับสยองกลางปากเกร็ด

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา ตำรว สภ.ปากเกร็ด รับแจ้งเหตุรถเมล์ทับคนเสียชีวิตบริเวณหัวถนนปากเกร็ด ย่านโรงเรียนปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบรถเมล์สาย 104 สีฟ้า-ขาว ทะเบียน11-6615 กทม. (ปากเกร็ด-หมอชิต) พร้อมศพ น.ส.สุริวัสสา แฝงหา อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่ อบต.บางพลับ เสียชีวิจในสภาพสวมเสื้อยืดคอโปโลสีชมพู กางเกงขายาวสีขาว บริเวณศีรษะถูกล้อรถทับ ด้านคนขับรถเมล์และพนักงานเก็บเงินคันดังกล่าวหลบหนีไป

ผู้ตายเพิ่งกลับจากบริจาคเลือด
           จากการสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ผู้ตาย พร้อมเพื่อนร่วมงาน เดินทางมาบริจาคโลหิตของสภากาชาดไทยที่ ร.ร.ปากเกร็ด หลังจากเสร็จกลุ่มของผู้ตายเดินข้ามถนนไปรับประทานอาหารที่เทศบาลนครปากเกร็ด

          ก่อนที่ผู้ตายจะขอแยกตัวกลับบ้านโดยเดินข้ามถนนมาเพื่อที่จะขึ้นรถเมล์คันดังกล่าวที่หน้าร้านสะดวกซื้อ แต่ขณะที่กำลังก้าวขึ้นรถอยู่นั้น รถเมล์คันดังกล่าวได้ขับออกไปทำให้ผู้ตายเสียหลักล้มจนศีรษะเข้าไปอยู่ที่ล้อหลังรถจนถูกทับเสียชีวิต

           เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า เบื้องต้นจะติดต่อเจ้าของอู่รถเมล์สายดังกล่าวมาสอบสวนว่าวันเวลาดังกล่าวใครเป็นผู้ขับขี่รถ เพื่อนำตัวมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผอ.ขสมก.สั่งเจ้าของอู่เยียวยา - เร่งล้อมคอก
        ด้านนายโอภาส เพชรมุณี ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ได้เรียกบริษัทของรถร่วมสายดังกล่าวมาพูดคุย พร้อมกับให้รับผิดชอบค่าทำศพ รวมถึงค่าทำขวัญแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว

ส่วนการลงโทษต้องรอผลการสอบสวนของตำรวจก่อน โดยขณะนี้ตำรวจได้ยึดรถดังกล่าวไว้เป็นของกลางแล้ว พร้อมกับแจ้งไปยังรถร่วมบริการรายอื่นๆ ให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ขสมก.มีการอบรมการระมัดระวังอุบัติเหตุให้กับพนักงาน และรถร่วมบริการอยู่เสมอ โดยต้องการให้เกิดเหตุน้อยที่สุด

ลูกเชื่อหมอผีจับแม่เผาตายทั้งเป็น


(22 ส.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเหตุการณ์สุดสลด ลูกเชื่อหมอผีคิดว่าแม่ถูกผีสิงจับแม่เผาไปทั้งเป็น เหตุเกิดในหมู่บ้านหย่งอี้ เขตปกครองตนเองชนชาติหลีเล่อตง เมืองซานย่า มณฑลไห่หนาน ประเทศจีน
ตามรายงานระบุว่าวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมามีชายอ้างตนเองว่าเป็นร่างทรงขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ เดินทางมายังหมู่บ้านแห่งนี้เพื่อช่วยรักษาโรค ทั้งนี้ มีครอบครัวหนึ่งมารดาป่วยมาเป็นเวลานานจึงพามาพบหมอเทวดาเพื่อช่วยรักษาโรค ร่างทรงพร้อมด้วยลูกน้องอีก 2 คนอ้างว่า มารดาของครอบครัวนี้ถูกผีสิง ต้องทำพิธีไล่จึงนำเหล้าขาวเทกรอกปากจนหมดสติ จากนั้นร่างทรงได้ใช้ไม้ทุบตีตามศรีษะและร่างกายเพื่อไล่วิญญาณ แต่ร่างทรงบอกว่าวิญญาณยังไม่ออกจากร่าง จึงบอกให้ลูกชายของผู้ตายช่วยกันจับผู้ตายไปเผาไฟทั้งเป็น 
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 6 คน คือร่างทรงพร้อมลูกน้องอีก 2 คนรวมถึงลูกชายของผู้ตายด้วย ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินคดี

วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เสี่ยใหญ่พาสาวเข้าม่านรูด ช็อกตายคาอก

เสี่ยใหญ่พาสาวเข้าม่านรูด ช็อกตายคาอก

เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (20 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง ย่านลำลูกกา จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเกิดขึ้นภายในห้องพักหมายเลข 10 บริเวณชั้นล่างของโรงแรมม่านรูดดังกล่าว ตรวจสอบหน้าห้องพักพบรถกระบะอีซูซุ สีเขียว จอดเอาไว้อยู่ ในห้องพักพบศพชาย รูปร่างอ้วนท้วน นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอนของห้องพัก สภาพไม่สวมเสื้อ ทราบชื่อคือนายสมรส (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี
นอกจากนี้ภายในห้องยังพบ นางลำดวน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี อยู่ด้วย จึงทำการสอบสวนและทราบว่า นายสมรส ผู้เสียชีวิต เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ย่านลาดหลุมแก้ว มักจะมาร่วมหลับนอนกับ นางลำดวน อยู่เป็นประจำ
เช่นเดียวกันกับก่อนเกิดเหตุ นายสมรสได้มารับไปทานข้าว ก่อนจะพาเข้าโรงแรม และเกิดอาการแน่นหน้าอก นางลำดวนจึงพยายามช่วยชีวิต นำยาแก้ความดันและโรคหัวใจมาให้ทาน แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น จึงได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากพนักงาน แต่ นายสมรส ได้เสียชีวิตก่อนจะหน่วยกู้ภัยจะมาถึง

น้าแรกข่าว > ภูมิภาค > ชาวระยองผวา! เสืออาละวาดขย้ำหมาตายนับสิบ ชาวระยองผวา! เสืออาละวาดขย้ำหมาตายนับสิบ

ชาวระยองผวา! เสืออาละวาดขย้ำหมาตายนับสิบ

(21 ส.ค.)  เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และตำรวจอาสาสมัคร องค์การบริหารส่วนตำบลหนองละลอก พร้อมด้วยชาวบ้านหมู่ 4 ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง กว่า 30 คน พร้อมอาวุธปืนลูกซองยาว พากันออกตามล่าสัตว์ร้าย ที่เชื่อว่าน่าจะเป็นเสือ ที่หลุดออกมาจากกรงขัง ของคนที่เลี้ยงไว้เนื่องจาก ก่อนหน้านี้ชาวบ้านที่ออกมากรีดยางพารา พบซากสุนัขตายเป็นจำนวนมาก สภาพแต่ละตัวถูกขย้ำน่าสยดสยอง

นายละออ จิตบรรจง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม. 4 ต.หนองละลอก บอกว่าได้รับแจ้งจากชาวบ้าน บริเวณบ้านโขดตาล ชากไม้ลวกว่า ได้รับความเดือดร้อน ไม่กล้าออกมากรีดยางพารา เพราะมีเสือออกอาละวาด ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา มีสุนัขตายไปแล้ว นับสิบตัว ตายวันละ 1-2 ตัว จนกระทั่ง เมื่อคืน ตาย 4 ตัว แต่ละตัวมีร่องรอยถูกกัดเหวอะหวะ ขาหักห้อยน่าสยดสยอง เนื้อตัวเละมีรอยเขี้ยว ชาวบ้านเชื่อว่า น่าจะเป็นเสือแปลง หรือเสือโคร่งที่มีคนแอบเลี้ยงแล้วหลุดมา ค่ำคืนนี้เตรียมระดมทีมออกไล่ล่า

สุดอึ้ง! ร้านขายเนื้อจระเข้ย่างไม้ละ 25 บาท

สุดอึ้ง! ร้านขายเนื้อจระเข้ย่างไม้ละ 25 บาท

(21 ส.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ร้านขายบาบีคิวแห่งหนึ่งริมถนน 27 เมืองกุ้ยหยาง มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน จำหน่ายเนื้อจระเข้ย่างและเนื้อสัตว์หายากอีกมายมายในราคาเพียงไม้ละ 5 หยวน( 25 บาท) เท่านั้น
รายงานระบุว่า นอกจากเนื้อจระเข้ย่างและซุปจระเข้แล้ว ยังมีเนื้อกวาง เนื้อวัวป่า เนื้อนกกระจอกเทศ รวมถึงเนื้อโหนกอูฐนำมาย่างขายเพียงไม้ละ 5 หยวน ( 25 บาท) เท่านั้น
ด้านเจ้าของร้านกล่าวว่า เนื้อจระเข้นั้นมีรสชาติคล้ายเนื้อวัวหาทานได้ยากและไม่ได้มีเพียงรสชาติอร่อยเท่านั้น แต่ยังบำรุงเลือด บำรุงกระดูก รักษาโรคหอบหืด ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย
ทั้งนี้ จระเข้ที่ทางร้านนำมาจำหน่ายนั้นถูกส่งมาจากฟาร์มจระเข้ในมณฑลกวางตุ้ง เป็นสายพันธุ์ที่ประเทศอนุญาตให้จำหน่ายได้และทางร้านได้รับใบอนุญาตให้จำหน่ายเนื้อเหล่านี้อย่างถูกกฎหมายแล้ว

วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ซิ่งปิกอัพปาดหน้าเด็ดชีพ ลูกชายชาดา ไทยเศรษฐ์กระสุนเจาะหัวดับสยอง





เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุระทึกขวัญ มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้รถกระบะสีฟ้า ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน สภาพโหลดเตี้ยแต่งซิ่งเป็นยานพาหนะ ขับปาดหน้าและใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าใส่รถโตโยต้า แลนด์ครุยเซอร์ กระสุนถูกที่ศีรษะนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ อายุ 25 ปี ลูกชายนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา และเป็นประธานคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ จนเสียชีวิต ที่บริเวณถนนสายเข้าใหญ่-วังน้ำเขียว ใกล้ทางเข้าเดอะชาโต รีสอร์ท์ เขาใหญ่ บ้านคลองเดื่อ หมู่ 6 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ระหว่างเดินทางมากับคณะของนายชาดา บิดาและคนติดตาม เพื่อเข้าพักที่รีสอร์ทดังกล่าว
ส่วนสาเหตุและการติดตามตัวคนร้ายอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่อย่างเร่งด่วนแล้ว

ดอนเจดีย์ถูกหวยยกหมู่บ้าน! กล้วยป่าออกผลเลข 7


ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ว่า ที่บริเวณหลังศาลาการเปรียญวัดสระด่าน ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี พบป่ากล้วยน้ำหว้าเขียวจำนวนมาก ซึ่งมีกล้วยน้ำหว้าเขียวต้นหนึ่งมีต้นสูงกว่า 3 เมตร แต่เครือกล้วยและดอกกล้วยออกที่บริเวณกลางลำต้น ชาวบ้านเรียกกล้วยนี้ว่า กล้วยพม่าแหกคุกเพราะเชื่อว่า ผิดปกติธรรมชาติของกล้วยเหมือนพม่าแหกคุก

พระแดง อายุ 81 ปี พระลูกวัดสระด่าน เผยว่า พระสังข์ ประภาวโส หรือ สังข์ ดอกสะเดา ซึ่งมาบวชใหม่ที่วัดสระด่าน ได้ไปเห็นกล้วยดังกล่าวที่บริเวณหลังศาลาการเปรียญและมาเล่าให้ตนและชาวบ้านฟังจึงเดินทางไปดูกันพบว่า กล้วยดังกล้วยผิดปกติธรรมชาติของกล้วยทั่วไป เพราะออกเครือ ออกลูก ออกดอก บริเวณกลางต้น ซึ่งกล้วยมีเครือเหมือนเลข 7 มีผล 12 ลูก 7 หวี หัวปลี 1 หัว รวมเป็น 85 ซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านรวมถึงพระต่าง ถูกหวยกันแทบทั้งหมู่บ้าน จากกล้วยต้นนี้ จนเริ่มมีผ้าสามสีและพวงมาลัยมาคล้องเพื่อแก้บนที่ถูกหวยกันแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางวัดเตรียมพัฒนาพื้นที่ป่ากล้วยให้เหมาะแก่การเข้ามาของชาวบ้านแล้วในขณะนี้ แต่วอนว่า ชาวบ้านอย่างมงายให้มองเป็นเรื่องของธรรมชาติที่สร้างสรรค์เรื่องของความเอาตัวรอดของต้นไม้ว่า ถึงเวลาเขาก็ต้องออกดอกออกเครือออกผลตามธรรมชาติเหมือนคนที่ถึงเวลาก็ต้องเกิดต้องแก่และต้องตายตามกาลเวลา

ด้าน นายเปลื้อง คุ้มฉายา อายุ 84 ปี ชาวบ้านตำบลหนองสาหร่าย อำเภอดอนเจดีย์ เปิดเผยว่าสำหรับตนเองนั้นตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นมาก่อนทราบข่าวก็เดินทางมาดูก็แปลกดีแต่เชื่อว่าต้องเป็นเรื่องของธรรมชาติที่สร้างมาให้กล้วยต้นนี้มาอยู่ที่วัดและมีชาวบ้านมาดูเป็นกล้วยแปลกที่ชาวบ้านเรียกกล้วยพม่าแหกคุกก็เปรียบเสมือนกล้วยไม่ออกเครือที่ยอดแต่กลับมาแหกออกที่กลางลำต้นไม่เหมือนกับกล้วยต้นอื่นๆ ซึ่งทราบว่าชาวบ้านในหมู่บ้านถูกหวยจากกล้วยต้นนี้เป็นจำนวนมากส่วนตนขอดูความแปลกอย่างเดียวก็พอ

ขณะที่ นางสาวพรรณทวี ทองดอนเหมือน อายุ 36 ปี ชาวตำบลหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ทราบข่าวก็เดินทางมาดูความแปลกของกล้วยที่วัดสระด่านแต่ก็มานั่งรับเลี่ยมพระที่นี้ได้อีกมีรายได้จากการรับเลี่ยมพระและมาดูความแปลกของกล้วยและถูกหวยมาแล้วก่อนหน้านี้จากกล้วยต้นนี้

วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555

โหด! ซิ่งแจ๊สยิงเด็กแว้นพัทยา ดับ 1 สาหัส 2

โหด! ซิ่งแจ๊สยิงเด็กแว้นพัทยา ดับ 1 สาหัส 2

คนร้ายซิ่งเก๋งฮอนด้าแจ๊สสีขาว ชักปืนสาดกระสุนสังหารใส่กลุ่มเด็กแว้น กว่า 40 ชีวิต ดับ 1 สาหัส 2 

(19 ส.ค.) เมื่อเวลา 05.00 น. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งแก๊งวัยรุ่นถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนไล่ยิงได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย เหตุเกิดบริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิทพัทยา 41/2 ถนนสุขุมวิทขาฝั่งขาเข้าพัทยา เยื้องกับร้านบุญถาวร ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ที่เกิดเหตุพบแก๊งเด็กแว๊นทั้งชายและหญิงเกือบ 40 คน จอดรถจักรยานยนต์ไว้ริมถนนนับสิบคัน โดยแก๊งเด็กแว๊นต่างพากันช่วยพยุงร่างของเพื่อนที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บนอนจมกองเลือดอยู่ริมถนนจำนวน 3 ราย
ทราบชื่อต่อมาคือ 1.นายทรงภิรัตน์ แก้วคนตรง อายุ 18 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณลำคอจำนวน 2 นัดอาการสาหัส 2.นายพีรพัฒน์ เกษแก้วเกลี้ยง อายุ 15 ปี ถูกยิงขณะใส่หมวกกันน๊อคกระสุนทะลุกระจกบังลมหน้าหมวกเข้าที่หน้าผาก 1 นัด และ 3.นายรณชัย พรหมสวัสดิ์ หรือตาม อายุ 18 ปี ถูกยิงบริเวณขาขวาท่อนล่าง 1 นัด เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯจึงรีบนำตัวผู้บาดเจ็บส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนทันที ซึ่งผู้บาดเจ็บ 1 ใน3 ราย คือนายทรงภิรัตน์ อาการสาหัสมากทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบถามทราบว่าแก๊งวัยรุ่นเด็กแว้นทั้งหมดส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา และได้นัดรวมตัวกันเกือบ 40 คน แล้วพากันขับรถจักรยานยนต์พากันไปเที่ยวดูงานเครื่องเสียงรถยนต์ที่ชายหาดบางแสน จ.ชลบุรี โดยขับรถจักรยานยนต์นั่งซ้อนท้ายกันไปเป็นกลุ่มเกือบ 20 คัน จนมาถึงที่เกิดเหตุก็ได้มีคนร้ายขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าแจ๊สสีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ซึ่งเป็นชายวัยรุ่นประมาณ 2 คนนั่งมาในรถ ได้ขับรถมาประกบแล้วบีบแตรก่อนที่คนนั่งข้างคนขับจะเปิดกระจกออกมาตะโกนด่าด้วยความไม่พอใจ แล้วชักปืนออกมายิงจำนวน 2 นัด จากนั้นก็ขับรถแซงหน้าไปเล็กน้อยก่อนจะชะลอ พร้อมชักอาวุธปืนออกมากราดยิงใส่กลุ่มเด็กแว้นอีกจำนวนหลายนัด ก่อนขับรถซิ่งหลบหนีไป

สุดอึ้ง! หนุ่มหย่ากับเมียไปแต่งกับแม่ยายวัย 77 ปี

(ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข่าว)

(17 ส.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เรื่องราวสุดแปลกของหนุ่มจีนหย่ากับลูกสาวเพื่อแต่งงานกับแม่ยาย อายุ 77 ปี จากนั้นได้หย่ากับแม่ยาย แล้วมาแต่งงานกับภรรยาคนเดิมอีกรอบ
รายงานระบุว่า หยินติ้ง และ หลี่ชุนเจีย สามีภรรยาได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้างฉางเจียง เขตชุ่ยผิง เมืองอี้ปิน มณฑลเสฉวน ประเทศจีน เมื่อปีสองที่แล้วทางรัฐบาลมีนโยบายพัฒนาพื้นที่เหล่านี้ให้เป็นเขตเศรษฐกิจ ซึ่งทางรัฐบาลได้มีการมอบเงินค่าชดเชยและเงินประกันผู้สูงอายุให้กับประชาชนที่มีชื่อในทะเบียนบ้านในเขตที่กำหนดเป็นรายบุคคล
ทั้งนี้ หยินติ้ง และภรรยาต้องการให้แม่ยาย วัย 77 ปีได้รับเงินชดเชยและเงินประกันผู้สูงอายุด้วย จึงคิดแผนย้ายทะเบียนบ้านของแม่ยายเข้ามายังบ้านหลังนี้ แต่ทางรัฐบาลได้ออกกฎห้ามย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาแล้ว ทั้งสองจึงวางแผนหย่ากันและให้ หยินติ้ง ไปจดทะเบียนสมรสกับแม่ยายในวันต่อมา เพื่อย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาในฐานะภรรยา 2 เดือนต่อมาหลังจากที่ย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาได้สำเร็จ หยินติ้งและแม่ยายจึงจดทะเบียนหย่ากัน จากนั้นหยินติ้งได้กลับมาจดทะเบียนสมรสกับภรรยาคนเดิมของเขา
กระทั่งล่าสุดครอบครัวนี้ได้เงินชดเชยและเงินประกันผู้สูงอายุจากรัฐบาลเป็นเงินมากกว่า 90,000 หยวน (450,000บาท) สุดท้ายทั้งสามถูกหน่วยงานรัฐบาลฟ้องร้องคดีอาญาในข้อหาฉ้อโกง ซึ่งถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง โดยทั้งสามให้การรับสารรภาพว่าทำจริงและได้มีการวางแผนรับเงินจากรัฐบาลโดยมิชอบ 

ระทึก! เครื่องบินน้ำมันหมด ขอเงินผู้โดยสารช่วยเติม


(19 ส.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้โดยสารบนเที่ยวบินหนึ่งของสายการบินแอร์ฟรานซ์ ได้รับการร้องขอเรี่ยไรเงินสำหรับเป็นค่าน้ำมัน หลังจากต้องลงจอดฉุกเฉินที่กรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย ซึ่งอยู่ภาวะสงคราม

รายงานระบุว่า เที่ยวบินจากปารีสลำนี้ใกล้เดินทางถึงปลายทางกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน อยู่แล้วเมื่อช่วงค่ำวันพุธ (15) แต่ระหว่างนั้นดันเกิดเหตุสู้รบบนถนนสายหนึ่งที่มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยาน กัปตันจึงตัดสินใจเบี่ยงเส้นทางสู่กรุงอัมมาน ของจอร์แดน ต่อมากัปตันก็ทราบว่าเครื่องบินลำนี้มีเชื้อเพลิงไม่พอที่จะบินไปถึงเมืองหลวงของจอร์แดน เขาจึงแจ้งขอลงจอดฉุกเฉินในซีเรีย ที่ฝ่ายกบฏกำลังต่อสู้เพื่อโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด

เมื่อเครื่องลงจอดที่กรุงดามัสกัสแล้ว ลูกเรือก็แจ้งกับผู้โดยสาร 174 คนว่าพวกเขาไม่สามารถใช้บัตรเครดิตของบริษัทแอร์ฟรานซ์เพื่อเติมน้ำมัน เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกต่อซีเรีย และร้องขอผู้โดยสารช่วยกันเรี่ยไรเงินสำหรับเติมน้ำมันหลายพันลิตร โดยอย่างน้อยๆก็ขอให้ไปถึงเมืองลาร์นากาของไซปรัส สนามบินที่มีความปลอดภัยที่อยู่ใกล้ที่สุด

นาจิบ ผู้โดยสารวัย 42 ปีเล่าว่า เราลงจอดในซีเรีย มีทหารอยู่เต็มสนามบินและดูน่ากลัวมาก ต่อมาเราได้รับแจ้งว่ามีปัญหาบางอย่างและไม่มีเงินสำหรับจ่ายค่าน้ำมัน พวกเขาถามว่าผู้โดยสารจะช่วยสนับสนุนค่าเชื้อเพลิงได้ไหม และขอรับเฉพาะเงินสดเท่านั้น

ต่อมาโฆษกของสายการบินแอร์ฟรานซ์ยืนยันกับเอเอฟพีว่า "มีการร้องขอเรี่ยไรเงินจากผู้โดยสารจริงหลังลงจอดในกรุงดามัสกัสเ ตอนแรกลูกเรือของเราเสนอจ่ายค่าน้ำมันด้วยบัตรเครดิต แต่ก็ติดขัดเรื่องธุรกรรม เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรทางการเงิน ดังนั้นลูกเรือจึงลองถามดูว่าพวกผู้โดยสารถือเงินไว้มากพอสำหรับเติมน้ำมันหรือไม่ อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแล้วก็ได้ทางออกโดยไม่ต้องยืมเงินสดจากผู้โดยสาร และเครื่องบินก็บินต่อไปยังเมืองลาร์นากาในอีก 2 ชั่วโมงต่อมา และมุ่งหน้าสู่เบรุตในวันรุ่งขึ้น" เขากล่าวโดยไม่ได้ชี้แจงว่าปัญหานี้คลี่คลายลงด้วยวิธีการใด

จับยกแก็งอริต่างสถาบันยิงนักเรียนเทคโนพระราม6ดับบนรถเมล์สาย110

จับยกแก็งอริต่างสถาบันยิงนักเรียนเทคโนพระราม6ดับบนรถเมล์สาย110

    ตำรวจบางพลัด และสืบสวนบก.น.7จับยกแก็งอริต่างสถาบันยิงนักเรียนเทคโนพระราม6ดับบนรถเมล์สาย110

จับยกแก็งอริต่างสถาบันยิงนักเรียนเทคโนพระราม6ดับบนรถเมล์สาย110

 พล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร ผบก.น.7 เดินทางไปที่สน.บางพลัด เพื่อสอบคำให้การกลุ่มผู้ต้องหาที่ลงมือยิงนายภูวเดช เงินรุ่งเรือง อายุ 16 ปีนักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยเทคโนโลยีพระรามหก เหตุเกิดบนรถประจำทางสาย 110

 ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางพลัด และสายสืบของ บก.น.7 จับกุมแก๊งนักเรียนนักกลุ่มดังกล่าวได้แล้วเกือบทั้งหมด คาดว่ามีจำนวน 10 คน ซึ่งเป็นนักเรียนช่างกลคู่อริ ในจำนวนนี้มีมือปืนลั่นไกรวมอยู่ด้วย ส่วนอีก 1 คน ยังหลบหนีอยู่ ทั้งหมดถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.บางพลัด




วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สาวบาร์กระหน่ำแทงเพื่อนสาว 20 แผลดับคาห้อง

สาวบาร์กระหน่ำแทงเพื่อนร่วมห้องกว่า 20 แผล เสียชีวิต สารภาพ ก่อนก่อเหตุร่วมกันเสพยาเสพติดแล้วมีปากเสียงกันเรื่องส่วนตัว 

เมื่อเวลา 04.00 น.(16 ส.ค) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร รับแจ้งมีผู้ก่อเหตุฆ่าคนตายรอมอบตัวอยู่ภายในห้องพักคอนโดมิเนียม ซ.อินทามระ 47 จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบนางสาวพรสุดา ทรงพระรักษ์ ยืนรอมอบตัว ขณะที่ภายในห้องน้ำพบศพ นางสาวจารุวรรณ สามปลื้ม สภาพตามตัวมีบาดแผลถูกแทงบริเวณลำตัวหน้าหลังกว่า 20 แผล ขณะที่ใบหน้าถูกปาดด้วยของมีคม และบริเวณลำคอหวิดขาด ภายในห้องมีร่องรอยการต่อสู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัว นส.พรสุดา ไปยัง สน.สุทธิสาร 

โดยนางเฟื่อง ทิพย์บรรจง ผู้เป็นน้า เปิดเผยว่าช่วงเวลาประมาณ ตี 3 นางสาวพรสุดา หรือ โม ได้โทรแจ้งว่าฆ่าคนตายและขอให้พาเข้ามอบตัวกับตำรวจ ซึ่งในตอนแรกยังไม่เชื่อ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจและมาพบว่าได้ก่อเหตุจริง 

โดย นส.พรสุดา สารภาพว่าได้ร่วมเสพยาไอซ์กับผู้ตายภายในห้อง ซึ่งได้มาขออาศัยอยู่เป็นเวลาเดือนกว่าแล้วและชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวจึงมีปากเสียงกันประกอบกับมีอาการเมายาจนก่อเหตุโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจปัสสาวะ และพบว่ามีปัสสาวะสีม่วง จึงควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

บก.ข่าวเคเบิลทีวีดังสมุทรปราการ แอบติดกล้องถ่ายผู้ประกาศสาว-นศ.ฝึกงานในห้องน้ำ

บก.ข่าวเคเบิลทีวีดังสมุทรปราการ แอบติดกล้องถ่ายผู้ประกาศสาว-นศ.ฝึกงานในห้องน้ำ
วันที่ 17 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา พ.ต.ท.สมภพ  สุภาพร  สารวัตรเวร สภ.เมืองสมุทรปราการ มีนางสาว น้อย (นามสมมติ) อายุ 23 ปี นางสาว เอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ผู้ประกาศบริษัทเคเบิ้ลทีวีชื่อดังย่านจังสมุทรปราการ  รวมทั้งนางสาวโอ (นามสมมุติ)  นางสาวบี และนางสาวซี (นามสมมุติ) เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวของบริษัทเคเบิ้ลดังกล่าว ได้นำหลักฐานซึ่งเป็นคลิปวีดีโอที่ถูกแอบถ่ายในห้องน้ำจำนวนมาก เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จับกุมตัวนายธีรรัตน์  เจริญภัคดี อายุ 54 ปี  บรรณาธิการข่าวบริษัทเคเบิ้ลชื่อดังย่านจังหวัดสมุทรปราการ ที่ลักลอบนำกล้องถ่ายวีดีโอลับแบบรีโหมต เข้าไปติดตั้งแอบถ่ายรูปเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวและผู้ประกาศข่าวในบริษัทขณะเข้าไปทำภารกิจส่วนตัวในห้องน้ำ

หลังรับแจ้งและตรวจดูหลักฐานจนเป็นที่แน่ชัด ตำรวจสภ.เมืองสมุทรปราการ จึงนำกำลังมาเชิญตัวนายธีรรัตน์ ในขณะนั่งทำงานอยู่ที่ชั้น 3 ของบริษัท พร้อมยึดของกลางกล้องแอบถ่ายรีโหมตคอนโทรล จำนวน 3 ตัว กล้องวีดีโอแบบแท่ง 1 ตัว และเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คจำนวน 1 เครื่อง ฮาร์ดดิสก์แบบพกพา  ขนาด 1 เทราไบต์ 2 ตัว

ตรวจสอบข้อมูลทั้งในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและฮาร์ดดิสก์แบบพกพาทั้ง หมด พบมีคลิปแอบหญิงสาวที่เข้าไปภารกิจส่วนตัวในห้องน้ำอยู่ 46 คลิป ซึ่งเห็นใบหน้าและอวัยวะทุกส่วนของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นพนักงานฝ่ายข่าวและผู้ประกาศข่าวร่วมทั้งฝ่ายเทคนิคของบริษัทเค เบิ้ลดังกล่าวที่เป็นทั้งผู้หญิงและผู้ชายจำนวนหลายคนและมีบางคลิปที่เห็นใบ หน้าของนายธีรรัตน์ บรรณาธิการข่าวบริษัทเคเบิ้ล ที่กำลังติดตั้งกล้องลับดังกล่าว

จากการตรวจสอบทั้งหมดมีภาพผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิง 9 คน เป็นผู้ประกาศข่าว เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าว และนักศึกษาฝึกงาน ที่ถูกแอบถ่ายทุกสัดส่วน ซึ่งในวันนี้มีผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพียง 5 คน ส่วนในวันพรุ่งนี้ผู้เสียหายอีก 4 คนที่มีภาพแอบถ่ายในคลิปจะเดินทางเข้าแจ้งความอีกครั้ง

นายชาย (นามสมมุติ) พนักงานฝ่ายข่าว ให้การว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่ตนเข้าไปทำภารกิจในห้องน้ำที่บริเวณชั้น 3 ของบริษัท ซึ่งเป็นแผนกฝ่ายข่าวก็พบเห็นวัตถุบางอย่างตกลงมาจากใต้อ่างล้างหน้า ซึ่งอยู่ภายในห้องน้ำ จึงหยิบมาดู พบว่าเป็นกล้องแอบถ่ายแบบรีโหมตคอนโทรลสีดำ จึงก้มลงไปดูที่ใต้อ่างล้างหน้าพบว่ามีกระดาษกาว 2 หน้าติดอยู่ใต้อ่างและมีผ้ากาวสีขาว เป็นสีเดียวกันอ่างล้างหน้าติดอยู่ จึงสำรวจทุกส่วนในห้องน้ำได้พบว่าที่บริเวณใต้ที่ใส่กระดาษชำระยังมีกล้องแอบถ่ายแบบเดียวกันติดอยู่อีก 1 ตัว ในอ่างชักโครกด้านหน้าอีก 1 ตัว บนฝ่าเพดานอีก 1 ตัวรวม 4 ตัว ตนจึงนำกล้องที่ตกลงมาไปติดตั้งไว้ที่เก่าก่อนที่จะใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปกล้องที่ติดตั้งตามจุดต่าง ๆ เอาไว้ทั้งหมด ก่อนที่จะนำเรื่องมาแจ้งให้ผู้จัดการบริษัททราบ และร่วมกันวางแผนหาตัวผู้ที่นำกล้องแอบถ่ายดังกล่าวเข้าไปติดตั้งเอาไว้ในห้องน้ำ โดยที่ผู้จัดการให้ตนคอยจับตาดูพนักงานฝ่ายข่าวที่ทำงานอยู่ทีบริเวณชั้น 3 ทุกคนที่เข้าออกห้องน้ำในชั้นดังกล่าว

นายชาย ระบุว่า จนกระทั่งในช่วงเย็นก่อนที่ผู้ประกาศข่าวจะเข้าไปอ่าน ก็เข้าไปทำภารกิจในห้องน้ำ และออกมา หลังจากนั้น นายธีรรัตน์เดินเข้าไปในห้องน้ำเดียวกัน ก่อนที่จะออกมาด้วยท่าทางมีพิรุธในมือกำวัตถุบางอย่างเอาไว้ซึ่งเป็นลักษณ์คล้ายรีโหมตสีดำ  ตนจึงจับตามองได้พบว่านายธีรรัตน์เห็นวัตถุดังกล่าวเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก พักใหญ่นายธีรรัตน์ได้ดึงวัตถุดังกล่าวออก และเดินออกไปจากห้องทำงาน โดยที่ไม่ได้ปิดคอมพิวเตอร์ จึงเข้าไปเปิดข้อมูลในคอมพ์ดูพบว่าเป็นภาพแอบถ่ายผู้ประกาศข่าวที่เข้าไปทำภารกิจในห้องน้ำ ซึ่งมีภาพอยู่หลายมุม นอกจากนี้ ยังมีคลิปแอบถ่ายในห้องน้ำของบริษัทอีกหลายสิบคลิป ซึ่งล้วนแต่เป็นพนักงานฝ่ายข่าวของบริษัททั้งผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งมีการเขียนชื่อผู้เสียหายที่ถูกแอบถ่ายเอาไว้ทุกกล่อง ตนจึงได้โอนถ่ายข้อมูลบางส่วนใส่ฮาร์ดดิสก์แบบพกพาของตนก่อนที่จะนำมาให้ผู้จัดการดูพร้อมด้วยผู้เสียหาย ก่อนที่ผู้จัดการจะพาผู้เสียหายทั้งหมดเข้าแจ้งความร้องทุกข์

จากการสอบสวนนายธีรรัตน์  ให้การรับสารภาพสั้นๆ ว่า ตนเองเป็นผู้ติดตั้งกล้องแอบถ่ายจริงโดยอ้างว่า เอาเก็บไว้ดูเองไม่ได้นำไปเผยแพร่แต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำการให้ผู้อื่นได้รับความอับอาย หรือก่อให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น ก่อนควบคุมตัวเอาไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

'พระเทพฯ'ทรงกำชับแก้ปัญหาไฟป่าพรุควนเคร็ง

'พระเทพฯ'ทรงกำชับแก้ปัญหาไฟป่าพรุควนเคร็ง
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงกำชับเร่งแก้ปัญหาไฟไหม้ป่า “พรุควนเคร็ง” กรมอุทยานฯ ลงพื้นที่ดับไฟ เตรียมพิสูจน์สิทธิที่ดินสัปดาห์หน้า...
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เมื่อเย็นวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นองค์ประธานเปิดงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งกรมอุทยานฯ ร่วมเป็นเจ้าภาพ ในการจัดงานภายใต้หัวข้อเกี่ยวกับผลสำเร็จการดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งมีขึ้นในระหว่างวันที่ 15-19 ส.ค.นี้ ที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เขตจตุจักร
ทั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จฯ เข้าเยี่ยมชมซุ้มนิทรรศการของกรมอุทยานฯ ซึ่งตนได้ถวายรายงานในเรื่องเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริ ในส่วนของกรมอุทยานฯ ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้รับสั่งถามถึงสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราชและพัทลุง โดยทรงเป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ และรับสั่งกำชับให้กรมอุทยานฯ และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) เร่งแก้ปัญหา เพราะถ้าปล่อยให้ไฟลุกลามออกไป อาจทำให้กระทบกับสภาพพื้นที่และความหลากหลายทางชีวภาพในบริเวณดังกล่าวได้
ด้านนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการแก้ปัญหาไฟป่าพรุควนเคร็ง ที่ จ.นครศรีธรรมราชและพัทลุงว่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากระดับน้ำในป่าพรุลดลง ส่งผลให้เกิดความแห้งแล้ง ประกอบกับประชาชนในพื้นที่ต้องการพื้นที่ทำการเกษตรเพิ่มเติม รวมทั้งมีนายทุนต้องการเข้าไปจับจองพื้นที่ จึงถางป่าและจุดไฟเผา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงทรัพยากรฯ ร่วมกับกองทัพภาคที่ 4 และผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 2 จังหวัด ต่างระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ทำความเข้าใจและให้ความรู้กับชาวบ้าน พร้อมกำชับไม่ให้บุกรุกป่าเพิ่มเติมอีก โดยชี้ให้เห็นถึงอันตรายจากการเผาป่า นอกจากนี้ ยังจะเร่งดำเนินโครงการด้านชลประทาน เพื่อให้เกิดความชุ่มชื้นในพื้นที่ด้วย
ขณะที่ นายศักดิ์ชัย จงกิจวิวัฒน์ ผอ.ส่วนควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ไฟป่าที่พรุควนเคร็ง สามารถควบคุมสถานการณ์ไม่ให้มีการลุกลามและไม่มีไฟไหม้ใหม่เกิดขึ้นแล้ว โดยขณะนี้เหลือพื้นที่เกิดไฟป่าใน 5 พื้นที่ คือ ที่ ต.เคร็ง อ.ชะอวด 2 จุด ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ 2 จุด และที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ อีก 1 จุด แต่ไม่น่าห่วง เพราะสามารถกั้นพื้นที่ไม่ให้ไฟลุกลามขยายวงออกไป และตอนนี้ไฟก็เริ่มมอดแล้ว
ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดไฟป่าขึ้น กินพื้นที่เสียหายไปถึง 9,870 ไร่ ซึ่งคงต้องเร่งฟื้นฟู โดยเฉพาะการจัดทำระบบน้ำในป่าพรุ เนื่องจากขณะนี้ ในป่าพรุควนเคร็ง มีระดับน้ำต่ำกว่าผิวดินถึง 40-50 เซนติเมตร ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐาน ที่จะต้องมีระดับน้ำสูงกว่าผิวประมาณ 5-10 เซนติเมตร ดังนั้น คงต้องประสานกับกรมชลประทานเพื่อหาทางฟื้นฟูต่อไป
ผอ.ส่วนควบคุมไฟป่า กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้าหลังจากสถานการณ์ไฟป่าคลี่คลาย ทางกรมอุทยานฯ จะเข้าไปดำเนินการตรวจสอบเพื่อพิสูจน์สิทธิในที่ดิน 4 ประเภท ในพื้นที่ป่าพรุ คือ พื้นที่ป่าสงวน พื้นที่อนุรักษ์ พื้นที่ ส.ป.ก. และพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิของราษฎร เพื่อจัดทำแนวเขตให้ชัดเจน พร้อมหามาตรการป้องกันไฟป่า และถือเป็นการพิสูจน์สิทธิในที่ดินไปพร้อมๆ กัน เนื่องจากมีหลายพื้นที่ที่ประชาชนอ้างว่าเป็นพื้นที่ของตนเอง ทั้งๆ ที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าสงวน หรือพื้นที่อนุรักษ์.

วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555

หล่อใจงาม 'รุจ-เนส เดอะสตาร์' ปลูกปะการัง ปล่อยฉลาม-ปลา-เต่า

หล่อใจงาม 'รุจ-เนส เดอะสตาร์' ปลูกปะการัง ปล่อยฉลาม-ปลา-เต่า
หล่อออร่าทะลุแดดจ้า รุจ ควง เนส เดอะสตาร์ ยินดีมาร่วมกิจกรรมดีๆ ที่รายการ “บางอ้อ” จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์  พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลพระชนมพรรษา 80 พรรษา
งานนี้นอกจากเป็นการรวมตัวทำดีของก๊วนพิธีกร หนุ่ม-คงกะพัน แสงสุริยะ, โจ๊กเกอร์-นพัตฎ์ธร มัททวีวงศ์, ฟรอยด์-ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์ ยังมี 2 หนุ่มเดอะสตาร์ รุจ-ศุภรุจ เตชะตานนท์ และ เนส-ยุทธนา กานิล พร้อมเด็กรักษ์สิ่งแวดล้อม จากโรงเรียนสิงห์สมุทร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มาร่วมแจมผนึกกำลังสานต่อแนวคิดปลูกจิตสำนึกรักษ์โลกในบางอ้อทริปพิเศษ “รวมพลคนใจดี ครั้งที่ 2” ตอน“ปลูกป่าใต้น้ำ คืนความงามสู่ทะเลไทย” ณ ค่ายวิทยาศาสตร์ทางทะเลและการอนุรักษ์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
รุจ & เนส แลดูกระตือรือร้นยิ่งกว่าใคร เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ลองปลูกปะการัง ที่สำคัญเป็นวิธีปลูกแบบพิเศษด้วยท่อพีวีซี โดยมี อ.ประสาน แสงไพบูลย์ อาจารย์ประจำราชภัฏรำไพพรรณีและเป็นประธานมูลนิธิค่ายวิทยาศาสตร์ทางทะเลและการอนุรักษ์ ผู้คิดค้นการปลูกปะการังด้วยท่อพีวีซีคอยให้คำแนะนำและพานั่งเรือเพื่อนำปะการังที่ปลูกไว้ในท่อพีวีซีไปวางใต้ทะเล 2 หล่อรุจ-เนส สู้ๆ แดดแรง ไม่กลัวดำกันเลย
อย่าเพิ่งเพลีย...จากนั้น 5 หนุ่มนำทีมเด็กๆ ไปตะลุยต่อที่ “เพอคูล่าฟาร์ม” สัมผัสกับฟาร์มปลาทะเลสวยงามหลายพันธ์ุที่เห็นแล้วต้องร้อง “อู้หู” โดยเฉพาะปลาการ์ตูนตัวเล็กน่ารักที่เรารู้จักกันดีจากหนังดังเรื่อง “Finding Nemo” แต่รุจดูท่าจะหลงเสน่ห์ที่นี่เข้าอย่างจังถึงขนาดหาหมวกตัวปลานีโม่มาใส่แชะรูปเล่นทำท่าแอ๊บแบ๊วผิดลุคหนุ่มมาดขรึมที่เคยเห็นลิบลับ
ก่อนจะไปปิดท้ายที่ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ เพื่อทำการปล่อยปลาฉลามกบและเต่าคืนสู่ทะเล พร้อมอาสาช่วยกันทำความสะอาดขัดบ่อเต่าแบบไม่กลัวเหนื่อย แถมทุกคนยังดูลั้ลลาบรรยากาศสนุกสนานเหมือนมางานปาร์ตี้สละโสดยังไงยังงั้น ณ จุดนี้เนสดูจะขยัน ลุยงานจริง ไม่ห่วงหล่อจนได้ใจแฟนคลับไปเต็มๆ ส่วนรุจท่าจะปลื้มบรรดาเต่าตัวน้อยกว่าเพื่อนเพราะขัดไปก็เล่นจุกจิกๆ กะน้องเต่าไปด้วย นี่ถ้าสาวๆ มาเห็นภาพนี้คงร้องกรี๊ดอิจฉาตาร้อน นึกอยากเกิดเป็นเต่าให้รู้แล้วรู้รอด
จบทริปรุจเผยว่า “ที่ผ่านมาเคยไปทำกิจกรรมแนวนี้หลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่เป็นแนวปลูกป่าซะมากกว่า เพิ่งมีงานนี้แหละที่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับทะเล แถมได้ลุยขนาดนี้ รู้สึกสนุกมาก เพราะผมเป็นคนขอนแก่นเลยไม่มีทะเล การได้มาทะเลเป็นอะไรที่มีความสุขสุดๆ แถมยังได้ร่วมกันทำประโยชน์  ช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติ ทั้งได้เที่ยวทั้งได้ทำความดี มาครั้งนี้เรียกว่าคุ้มเกินคุ้มครับ”  ส่วนเนสก็ปลื้มปริ่มๆ บอกว่ากิจกรรมดีๆ แบบนี้เต็มใจและยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้แฟนๆ หันมารักษ์และสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้นๆ
ติดตามภาพความสนุกทั้งหมดนี้ได้ในรายการ “บางอ้อ” วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคมนี้ เวลา 13.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี พลาดแล้วจะเสียใจ สวยเตือนแล้วนะ.

วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555

'บัวขาว'คัมแบ็กขึ้นชกคืนนี้เจอแชมป์ยุโรป

'บัวขาว'คัมแบ็กขึ้นชกคืนนี้เจอแชมป์ยุโรป
5 เดือนที่รอคอย “ดำดอทคอม” บัวขาว ป.ประมุข พ้นโทษแบนคัมแบ็กขึ้นสังเวียนชกไทยไฟต์ครั้งแรก กับอับดุล  ตูเรย์ จากฝรั่งเศส แชมป์ยุโรปปี 2011 วันนี้ (17 ส.ค.) ที่สนามฟุตบอลของสโมสรเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เจ้าตัวยืนยันฟิตเกินร้อย ร่างกายแกร่งกว่าทุกไฟต์ที่ผ่านมา และถือเป็นวันที่ตนเฝ้ารอมานาน ยอมรับ ดีใจมากที่ปัญหาทุกอย่างจบ ได้กลับมาสู่สังเวียนอีกครั้ง ขณะที่คู่ชกจากแดนน้ำหอม ประกาศก้องตนเกิดมาเพื่อดับฝันและลบตำนาน ไฟต์นี้ถ้าน็อกตนไม่ได้ก็อย่าหวังว่าจะชนะได้ง่ายๆ ช่อง 3 ถ่ายทอดสด เริ่มเวลา 17.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเวลาไทย 23.15 น.) 5 เดือนแห่งการรอคอย หลังจากที่ “ดำดอทคอม” บัวขาว ป.ประมุข แชมป์มวยเควันและมวยไทยไฟต์ล่าสุด ต้องโดนโทษแบนห้ามชกเป็นเวลา 6 เดือน แต่หลังจากที่เคลียร์ปัญหาคาใจกับหัวหน้าคณะและทุกฝ่ายได้แล้ว รวมถึงยื่นอุทธรณ์กับทางการกีฬาแห่งประเทศไทยสำเร็จ โดยพ้นโทษวันที่ 16 ส.ค.
ล่าสุด บัวขาวก็ได้ขึ้นชกไฟต์แรกในวันนี้ (17 ส.ค.) ในรายการไทยไฟต์ ที่สนามฟุตบอลคิงส์เพาเวอร์ของสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ พบกับอับดุล ตูเรย์ จากฝรั่งเศส แชมป์ยุโรปปี 2011 ช่อง 3 ถ่ายทอดสด เริ่มเวลา 17.15 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเวลาไทย 23.15 น)
ซึ่งบัวขาว ป.ประมุข เปิดเผยก่อนการชกว่า ถือเป็นวันที่ตนรอคอยมานาน ยอมรับว่าดีใจมากหลังจากที่ปัญหาทุกอย่างเคลียร์กันได้ ทำให้ตนกลับมามีกำลังใจที่จะต่อสู้อีกครั้ง สำหรับความพร้อมของไฟต์นี้ยืนยันว่าฟิตเกินร้อยและแกร่งกว่าทุกครั้ง ขนาดในการทดสอบสมรรถภาพที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาของ ม.เกษตร ก่อนที่จะเดินทางมาชกยังบอกว่าครั้งนี้ร่างกายตนแข็งแกร่งกว่าทุกครั้ง อาจเป็นเพราะตนมีความมุ่งมั่นขึ้น ถือเป็น 5 เดือนที่รอคอยจริงๆ และขอบอกว่าช่วงเวลาดังกล่าวมันนานมาก ช่วงนั้นยอมรับว่าเครียด แต่เมื่อทุกอย่างลงเอยได้ด้วยดี จากนี้ไปจะทำให้การชกทุกไฟต์ดุดันมากขึ้น และเชื่อว่าจะกลับมาสร้างความสุขให้กับแฟนชาวไทยอีกครั้งแน่นอน
ขณะที่อับดุล ตูเรย์ จากฝรั่งเศส เปิดเผยว่าตนได้ยินกิตติศัพท์ของบัวขาวมานาน ได้ดูการชกมาหลายไฟต์ ยอมรับเป็นมวยที่แข็งแกร่ง แต่สำหรับตนแล้วขอบอกว่าตนมาเพื่อทำลายหรือลบสถิติและดับฝันคู่ต่อสู้มากกว่า และขอบอกกับบัวขาวว่า หากน็อกตนไม่ได้ก็อย่าหวังว่าจะชนะตนได้ง่ายๆ เลย
ด้าน “เสี่ยมด” นพพร วาทิน ผู้จัดศึกมวยไทยไฟต์ เปิดเผยว่า การแข่งขันไทยไฟต์ครั้งนี้ถือว่ายิ่งใหญ่มาก และตนก็ดีใจที่บัวขาวได้กลับมาชกอีกครั้ง เพราะที่ผ่านมาบัวขาวสร้างชื่อเสียงในการชกมวยไทยไฟต์เยอะ ทำให้เป็นที่สนใจของแฟนมวยต่างประเทศ ที่สำคัญไฟต์นี้รับรองว่าเป็นรายการที่ยิ่งใหญ่แปลกใหม่ เพราะเป็นการจัดมวยในสนามฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน แต่นี่เพราะสโมสรเลสเตอร์มีเจ้าของเป็นคนไทย จึงทำให้มวยไทยไฟต์ครั้งนี้เกิดขึ้นได้

วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

'มาร์ค'หวั่นหนี้ท่วมชาติ ชี้รัฐใช้เงินกู้ไม่ตรงเป้าแถมทุจริตเพียบ <- ข่าวการเมือง <- ข่าววันนี้ 'มาร์ค'หวั่นหนี้ท่วมชาติ ชี้รัฐใช้เงินกู้ไม่ตรงเป้าแถมทุจริตเพียบ

'มาร์ค'หวั่นหนี้ท่วมชาติ ชี้รัฐใช้เงินกู้ไม่ตรงเป้าแถมทุจริตเพียบ
“อภิสิทธิ์”หวั่นหนี้ชาติท่วมหัว ไร้คำตอบใช้คุ้มหรือไม่ ซัดรัฐมักง่าย กล้าพูด”ข้าวไม่ขายยังไม่ขาดทุน” พร้อมชี้ 4 เรื่องหลักกู้มาใช้ไม่ตรงเป้าแถมทุจริตเพียบ...
breakนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการ 101 องศาข่าว ช่วงตรงไปตรงมากับอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทางสถานีวิทยุ 101 เกี่ยวกับการอภิปรายงบประมาณว่า งบประมาณเป็นเรื่องสำคัญ จึงต้องพิจารณารายมาตราในวันแรกอาจจะยาวเป็นพิเศษ เพราะว่ามาตรานี้เป็นยอดรวม จะเน้นอภิปรายในการบริหารทางด้านการเงินการคลังที่พูดว่า งบประมาณปีนี้ขาดดุล 3 แสนล้าน แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว เป็นการพิจารณาว่า เรากำลังสร้างหนี้มากกว่านั้นมาก เพราะว่ามี พรก.เงินกู้อีก 3.5 แสนล้านบาท ที่เดิมที่บอกว่า เร่งด่วนขนาดที่ว่ารองบประมาณฉบับนี้ไม่ได้ แต่วันนี้ปรากฎว่าใช้จ่ายงบไปแล้ว ไม่ถึง 5 % ส่วนที่เหลือกำลังเชิญชวนให้คนมาเสนอแผนว่า จะใช้อย่างไร แค่จุดนี้ก็ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ที้น่าห่วงใยกว่าคือ เรากำลังมีการก่อหนี้ โดยที่แผนงานต่างๆ ไม่ชัดเจน ที่รองนายกฯ กำลังกฎหมายกู้เงินอีก 2 ล้านล้านบาท ฉะนั้นหนี้ของประเทศไทยจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่เราไม่มีคำตอบว่า เงินที่จะเอาไปใช้มากมายขนาดนี้จะให้ผลตอบแทนกลับมาคุ้มค่า หรือจะเป็นอะไร ดังนั้นการบริหารเศรษฐกิจนับวันก็จะมีความสับสนมากขึ้น
“เดิมที่มีการพูด ผมเห็นที่รัฐบาลรับทราบผลการประชุมของคณะกรรมการที่พิจารณาเรื่องการฟื้นฟู อนาคตของประเทศ บอกว่าเราจะต้องเร่งลงทุน เพราะว่าส่วนหนึ่งเราเกินดุลการค้า เกินดุลบัญชีเดินสะพัด แต่ปรากฎว่า มาถึงวันนี้ ดุลการค้าของเราก็ยังติดลบอยู่ในปีนี้ การส่งออกก็ยังมีปัญหาไม่เป็นไปตามหมาย ฉะนั้นตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก ก็เป็นประเด็นที่มีการนำเสนอ นอกจากนี้ก็จะมีรายการใหญ่คือเรื่องการจำนำพืชผล โดยเฉพาะข้าวที่กำลังสร้างภาระในอนาคต คำพูดหรือคำตอบที่บอกว่า ข้าวยังไม่ขายก็ยังไม่ขาดทุนนั้น เป็นคำตอบที่ง่ายเกินไป และไร้ความรับผิดชอบ เพราะว่า มันเห็นกันอยู่แล้ว ทุกฝ่ายก็มองตรงกันอยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายค้าน นักวิชาการ ต่างประเทศ มองตรงกันหมดว่า โครงการนี้จะขาดทุนปีละเป็นหลักแสนล้าน บวกกับค่าบริหารจัดการอีกหลายหมื่นล้าน กับผลตอบแทนที่กลับมาซึ่งครอบคลุมเกษตรกรเพียงประมาณครึ่งหนึ่ง หรือไม่ถึงนั้น ก็รวมทั้งทุจริต การรั่วไหล ก็เป็นประเด็นที่มีการอภิปรายกันอยู่แต่ว่าเรื่องอื่นๆ ก็คงจะมีการอภิปรายลงไปในรายละเอียดต่อไป เมื่อมีการพิจารณาเข้าสู่การพิจารณางบประมาณของกระทรวงต่าง ๆ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวต่อถึงยุทธศาสตร์ในการอภิปรายงบประมาณปี 56 ตลอด 3 วันนี้ว่า ต้องให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยเน้นนำเสนอ 1. การที่รัฐบาลกำลังก่อหนี้มากมายให้กับประเทศ 2. การใช้เงินที่กู้มา ขณะนี้ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ไม่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งนโยบายของรัฐบาลหลายเรื่องที่ได้เคยประกาศไว้ตอนหาเสียง กลับมีปัญหาสวนทางกัน เช่น กรณีของค่าครองชีพ ราคาพลังงาน เป็นต้น 3. จะการอภิปรายลึกลงไปในบางโครงการที่เราเห็นว่าเป็นปัญหา เช่น โครงการการจำนำพืชผล ข้าว เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น และ 4. การเกิดปัญหาการทุจริต คอร์รัปชั่นในหลายโครงการ รวมถึงอภิปรายภาพรวมของการบริหารจัดการการใช้จ่ายของรัฐบาล โดยที่เราจะเน้นนำเสนอข้อเท็จจริงให้กับประชาชนรับทราบ ขณะเดียวกัน ถ้ารัฐบาลจะลองรับฟัง และเห็นว่าอะไรที่เป็นความจริง เป็นประโยชน์ ก็นำไปปรับปรุง ไม่ใช่เฉพาะในแง่ของการที่จะเอาเงินภาษีอากรที่มาขอจากสภาไปใช้จ่าย แต่ว่าในแง่ของการบริหารทั่วไปด้วย ในเรื่องนโยบายสำคัญๆด้วย

สัญญาลูกผู้ชาย 'เป๊ก'จะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี 'ธัญญ่า'วอน'พิงกี้'อย่าทำอีก

สัญญาลูกผู้ชาย 'เป๊ก'จะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี  'ธัญญ่า'วอน'พิงกี้'อย่าทำอีก
เป๊ก-สัญชัย แจงตนและพิงกี้-สาวิกา ส่งข้อความคุยกันแค่ฐานะพี่น้อง ยันไม่ได้เจออีกฝ่ายเลย ย้ำจะทำหน้าที่ีหัวหน้าครอบครัวที่ดี  ด้านธัญญ่า-ธัญญาเรศ วอนอีกฝ่ายเลิกส่งข้อความ แจงโทร.หาแม่นางเอกสาวแค่บอกว่านางเอกสาวมีการติดต่อสามีตน...
เป็นข่าวฮือฮาอีกครั้งหลังมีคลิปเสียงฉาวที่อ้างว่าเป็นการสนทนาของนักแสดง สาววิก 3 ธัญญ่า-ธัญญาเรศ เองตระกูล และ แม่อ้อย-สรินยา คุณแม่ของนางเอกนัยน์ตาคม พิงกี้-สาวิกา ไชยเดช โดยเนื้อหาในการสนทนาเริ่มต้นที่ธัญญ่าบอกว่าพิงกี้ส่งข้อความทำนองว่าคิด ถึงหาไฮโซหนุ่ม เป๊ก-สัญชัย เองตระกูล สามีของเธอ จากนั้นคุณแม่ของนางเอกคนดังก็ออกโรงโต้กลับทันทีเพื่อปกป้องลูกสาว จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง และเมื่อบรรดากระจอกข่าวทราบว่าคู่สามีภรรยา เป๊ก-ธัญญ่า ขอเปิดใจถึงกรณีดังกล่าวในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต "J on the Moon" ที่ร้าน Muze ทองหล่อ จึงตามมาทำข่าวสัมภาษณ์ทั้งคู่กันแน่นงาน
หนุ่มเป๊กเปิดใจแบบร่ายยาวถึงเรื่องนี้ว่า "ผมไม่อยากให้มองว่าเรื่องเอสเอ็มเอสเป็นเรื่องสาระสำคัญนะ ถ้าถามว่าเรื่องเอสเอ็มเอสเป็นยังไงผมก็จะบอกว่ามันเป็นเรื่องจริง เบอร์ก็เป็นเบอร์ที่น้องเขาเคยใช้ ผมรู้และเข้าใจดีว่าเอสเอ็มเอสที่ส่งไปเป็นแค่การทักทาย คำที่อยู่ในประโยคนั้นๆ หรืออยู่ในเอสเอ็มเอสมันสามารถทำให้คนคิดไปได้หลายรูปแบบเพราะต่างคนก็ต่าง ความคิด มันก็ด้วยต่างวาระต่างสถานการณ์ ทำให้คำๆ นี้สามารถแปลความหมายไปได้ในหลายความหมาย อยากจะบอกว่าจริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องปกติของการส่งเอสเอ็มเอสสำหรับคนที่รู้จักกัน มันเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องของมนุษย์ เป็นเรื่องของคนที่ทำกันได้  ผมเองในบางครั้งที่ได้เห็นน้องเขาตามสื่อหรือตามโฆษณา พอนึกถึงก็ส่งเอสเอ็มเอสไปตามปกติ ซึ่งผมก็บอกธัญญ่า แต่ผมเข้าใจในเรื่องของธัญญ่าที่ได้รับเอสเอ็มเอสในวันนั้น ในฐานะภรรยาธัญญ่าก็จะต้องโกรธและโมโหเป็นธรรมดา ถึงแม้ในวันนั้นเบอร์ที่ส่งมาจะไม่ใช่เบอร์ของน้องเขาก็ตาม เมื่อเอสเอ็มเอสมาแบบนี้ธัญญ่าก็จะต้องโมโห ผมเข้าใจได้ดี แต่ก็อยากจะบอกธัญญ่าและทุกคนในที่นี้ด้วยว่า ผมเองและน้องเขาไม่ได้มีอะไรเลย ไม่เคยได้เจอไม่เคยได้พบกันเลย มีแต่เพียงแค่เมสเสจทักทายนานๆ ที นี่พูดด้วยความสัตย์จริงของลูกผู้ชาย ด้วยที่ผ่านมาทุกคนเอง คนที่ใกล้ตัวผมทุกคนคงเห็นว่าผมเองพยายามมากแค่ไหนที่จะทำให้ครอบครัวกลับมา เป็นเหมือนเดิม ให้ภรรยาคือธัญญ่าที่ผมรักมาก และลูกสาวที่ผมรักกลับมาเป็นเหมือนเดิม เพราะฉะนั้น มันไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะกลับไปทำเรื่องแบบนั้น หรืออะไรที่ไม่ดีที่จะทำให้ครอบครัวผมกลับไปนับศูนย์อีก มันไม่ใช่ความคิดของผมแน่นอน"
"ในส่วนตัวของน้องเขาเอง ผมเชื่อว่าเขาเองก็ผ่านอะไรร้ายๆ มาเยอะ กว่าที่เขาจะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทำงานเลี้ยงดูครอบครัวได้ตามปกติมันก็เป็นเรื่องที่ยากลำบากแสนเข็ญ หลายๆ คนก็คงเห็น คงไม่มีความคิดที่จะกลับมาทำอะไรที่ต้องเริ่มนับ 1 ใหม่ ขอยืนยันให้ทุกคนได้ทราบให้ธัญญ่าได้สบายใจว่า ทุกเรื่องที่ได้ยินมามันไม่ใช่เรื่องจริง มันเป็นเพียงแค่การทักทายกันปกติ ในเรื่องของคลิปที่หลุดออกไปผมก็ไม่รู้ว่าหลุดไปได้ยังไง ธัญญ่าส่งให้เพื่อนสนิท ส่งให้ครอบครัวที่ต่างประเทศ แล้วก็ผมส่งให้เพื่อนสนิท ส่งให้ครอบครัวผมเช่นเดียวกัน พนักงานผมฟังทุกๆ คน หลุดยังไงผมไม่ทราบ ผมต้องบอกไว้ว่าในฐานะที่ธัญญ่าเป็นภรรยา คงจะต้องโมโหผมเป็นธรรมดา ธัญญ่าเองก็ได้โทร.ไปหาน้องเขา ซึ่งมีอยู่วันหนึ่งเมื่อนานมากแล้ว คุณแม่ของน้องเขาได้บอกธัญญ่าว่า ถ้ามีปัญหาอะไรให้โทร.มาปรึกษาได้ ธัญญ่าก็เลยโทร.ไปมันก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของคลิปอันนี้ ส่วนทางคุณแม่ของน้องเขาเอง ผมก็เข้าใจว่าตัวคุณแม่น้องเขาคงรู้ว่าน้องไม่ได้ติดต่อไม่ได้อะไรกับผม แต่พอได้มาเจอเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง ก็คงจะตกใจ โมโห แล้วก็คงต้องปกป้องลูกสาวในฐานะที่เขาเป็นแม่มันเป็นเรื่องธรรมดา ผมไม่อยากเอาเรื่องเหล่านี้มาเป็นปัญหาให้ครอบครัวผมเองจะต้องมีปัญหาอีก รวมถึงครอบครัวของน้องเขาด้วย ก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น"
"ที่ผ่านมา ทั้งหมดทั้งมวลผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้เรื่องราวต่างๆ นานามันเกิดขึ้นมา ให้ธัญญ่าต้องทะเลาะกับแม่น้องเขา หรือว่าตัวน้องเขาและอีกหลายๆ คน ทำให้ธัญญ่าต้องเสียชื่อเสียง รวมถึงชื่อเสียงของน้องเขาด้วย ผมเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดข่าวคราวที่น่าเบื่อหน่ายยืดยาวมากๆ จนผมเห็นข่าวผมเองผมยังไม่ดูไม่อ่านอะไรทั้งสิ้น ผมอยากให้เรื่องราวเหล่านี้ยุติด้วยคำพูดของผมในฐานะที่ผมเป็นลูกผู้ชาย ถ้าคุณมารอฟังผมกันเยอะขนาดนี้คุณต้องเชื่อผม และให้เกียรติผมว่าในสิ่งที่ผมพูดคือเรื่องจริง ผมยืนยันว่าผมกับน้องเขาไม่มีอะไร ไม่เคยเจอกันไม่เคยพบกัน และจากนี้ไปผมก็ยืนยันว่าผมจะต้องทำให้ครอบครัวที่ผมรักมากๆ ภรรยาและลูกที่ผมรักกลับมาอยู่ด้วยกันดีเหมือนเดิมให้ได้เร็วที่สุด ส่วนน้องเขาก็ปล่อยให้น้องเขาทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวตามที่เขาต้องเป็น ผมอยากจบสิ้นยุติข่าวเรื่องนี้ทุกสิ่งทุกอย่าง อีกอย่างผมต้องขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ นักข่าวทุกคน สื่อทุกสื่อ พิธีกรรายการข่าวทีวีต่างๆ ที่ได้รอจะให้โอกาสผมได้มาพูดในวันนี้โดยที่ไม่มีการลงข่าวหรือว่าอะไรมา ตัดสินผมไปลงข่าวก่อน อันนี้ผมต้องขอบคุณจากใจผมเลย จากนี้ไปผมก็จะต้องเดินหน้าทำให้ครอบครัวผมกลับมาดีเหมือนเดิม"
ด้านธัญญ่าเปิดใจบ้างว่า "เรื่องทั้งหมดเป๊กพูดไปหมดแล้ว อยากฝากถึงน้องคนนั้นว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมา 2 ปีกว่าจะ 3 ปี พวกเราทุกข์ทรมานกันหมดทุกฝ่าย ขณะนี้เรากำลังให้โอกาส พี่เป๊กขอโอกาส จากที่เราตัดสินใจว่าจะหย่าแน่นอน ในเมื่อพี่เป๊กเป็นคนขอกลับมาอีกครั้ง และลูกเราก็โตขึ้นทุกวัน เราเลยคิดว่าก็ควรจะให้โอกาสเขาเพื่อครอบครัวเราและลูกของเรา อยากฝากขอร้องน้องนิดนึงนะคะเรื่องการส่งข้อความคิดถึงสามีเรา มันก็ยากที่จะเข้าใจ แต่ในเมื่อพี่เป๊กยืนยันว่าไม่มีอะไรเราก็โอเคจะเข้าใจอย่างนั้น สำหรับกรณีที่เกิดการคุยกันในลักษณะที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่กับคุณแม่ของน้อง เขา อยากบอกว่าเราแค่จะโทร.ไปบอกว่าน้องเขามีการติดต่อมานะ คุณแม่เคยบอกไว้ว่าถ้ามีการติดต่อให้บอกคุณแม่ คุณแม่จะจัดการทุกอย่างเอง เลยอยากจะโทร.ไปบอกเขา ไม่งั้นมันจะค้างคาใจ เราจะดำเนินชีวิตครอบครัวต่อไปยังไง ในเมื่อเราไม่มั่นใจในเรื่องนี้เกือบ 3 ปี มันทุกข์ทรมานทั้งครอบครัวเราครอบครัวคุณ เรื่องการส่งข้อความหรือการโทร.มาจะในอนาคตอีก 2-3 ปี หรืออีกปีหรือ 6 เดือน ก็ขอให้เรามั่นใจในความสัมพันธ์นั้นว่าไม่มีอะไรเชิงชู้สาวอีกแล้ว ธัญญ่าจะโอเคค่ะ" เป๊กพูดเสริม "อันนี้บอกให้ธัญญ่าฟัง ยืนยันได้เลยอย่างลูกผู้ชายว่าเรื่องเหล่านั้นคงไม่มี เหมือนที่อธิบายทั้งหมด" ธัญญ่าแทรกว่า "คงไม่มีหรือไม่มี" เป๊กรีบตอบ "ไม่มีๆ"
น้องคนนั้นส่งข้อความมาบ่อยไหม? เป๊ก "บางทีผมก็ส่งเดือนละครั้ง เมื่อเวลาผมเห็นสื่อหรือเห็นอะไรที่ทำให้มันนึกถึงคนที่เคยรู้จัก ผมก็เอสเอ็มเอสไปเป็นปกติ หรือในอนาคตถ้าผมเจอน้องเขา ผมก็คงต้องทัก ส่งเมสเสจไปตามปกติ ไม่มีอะไรเป็นเรื่องแบบนั้น มันเป็นเรื่องปกติมาก" จะเปลี่ยนเบอร์หรือส่งเมสเสจไปอีกมั้ย? เป๊กสวนทันที "ไม่เปลี่ยน คุณไม่ต้องถามหรอก ผมพูดไปหมดแล้ว ไม่ต้องมาคะยั้นคะยอถามผมว่าส่งไม่ส่ง ผมพูดทุกสิ่งทุกอย่างหมดแล้ว ทุกคนก็รู้ดี คนเป็นคน ลองคิดถึงตัวคุณเองสิ ถ้าคุณรู้จักใครซักคนคุณจะทำยังไง ความเป็นเพื่อนคุณไม่มีเหรอ ความเป็นพี่เป็นน้องทำไม่ได้เหรอ ผมยืนยันและตั้งใจทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ดีเพื่อครอบครัว ณ ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือลียา เราช่วยกันดูแลทั้งคู่ตลอดเวลา ลียาเขาก็ติดคุณแม่มากกว่า" ธัญญ่า "แต่ถ้าไม่มีธัญญ่าลูกก็จะติดพี่เป๊กมากเหมือนกัน" แสดงว่าเป๊กขอโฟกัสที่ลูกก่อน? เป๊ก "แน่นอน ในอนาคตผมไม่อยากให้ลูกมีปัญหา มีปมด้อย  ฉะนั้น ขึ้นอยู่ที่ตัวผมด้วย ต้องทำทุกอย่างให้ครอบครัวผมสมบูรณ์"
อยากกลับมาใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกันร้อยเปอร์เซ็นต์อีกมั้ย? เป๊ก "จริงๆ มันก็ใช้อยู่แล้วสามีภรรยาเนี่ย ก็แค่แยกบ้านกันนอน" ธัญญ่า "ที่ผ่านมาจากตัดสินใจจะหย่าแน่นอน จบแน่นอน แต่พอมีโอกาสได้กลับมาเป็นครอบครัว อาจไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่เราก็ยังไปต่างประเทศ ทำกิจกรรมร่วมกัน มีปัญหาเรื่องลียาก็ปรึกษากันตลอด ทุกอย่างเหมือนดีขึ้น เราสบายใจที่พี่เป๊กพยายามให้เห็นจริงๆ แต่พอเกิดเรื่องแบบนี้ก็ทำให้เราเฟล เหมือนเรายังไม่ไว้ใจ" เป๊ก "ก็ที่พูดทั้งหมดเพราะอยากให้เข้าใจว่าไม่มีอะไร" ธัญญ่า "ธัญญ่าเชื่อว่าถ้าเป็นภรรยา เป็นครอบครัว เป็นแม่ของลูก ถ้ามีใครเข้ามาทำให้ชีวิตเรามีปัญหา เคยมีปัญหามาก่อนแล้วเวลาก็ผ่านไปไม่ นาน แล้วยังมาเจอข้อความ Miss you na มันยากที่จะเข้าใจ แต่เราก็พยายามจะเข้าใจหลังจากการที่เราได้รับการยืนยันนะคะ แต่ในวินาทีที่ได้เห็นข้อความก็คิดว่าจบแล้ว ไม่เอาแล้ว แต่พอวันเวลาผ่านไป เราก็ใจเย็นลง ได้คุยกัน ก็โอเค จะเข้าใจแบบนั้น" เป๊ก "ผมยืนยันความด้วยความเป็นลูกผู้ชายของผม แต่พูดไปเดี๋ยวก็โดนด่าอีก ก็มันไม่มีอะไรอย่างที่คนอื่นคิดหรอกครับ".
รับฟังเสียงสัมภาษณ์ เป๊ก-ธัญญ่า ได้ที่โทร *7172754 ค่าบริการนาทีละ 3 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) สำหรับลูกค้าเครือข่ายดีแทค