เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
นางสาวพรทิพย์ จันสะอาด รหัส 52031390165

วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2555

เปิ้ล เสียใจ ถูกปลด สาระแน รับนโยบายไม่ได้เหตุถอนหุ้น...

เปิ้ล เสียใจ ถูกปลด สาระแน รับนโยบายไม่ได้เหตุถอนหุ้น
พิธีกรอารมณ์ดี เปิ้ล นาคร รับสุดเสียใจถึงขั้นร้องไห้! ถูกปลดพิธีกรรายการ สาระแน ฟ้าผ่า! ออกปากเข้าใจแต่ไม่ทันตั้งตัวและเอ่ยลาคนดู ยันไม่มีอะไรเคลียร์ ก่อนแจงสาเหตุถอนหุ้น เพราะรับนโยบายใหม่ของบริษัทไม่ได้ โต้มีปัญหาเรื่องเงิน โต้เปิดบริษัททำหนังแข่ง อุบตอบความสัมพันธ์ วิลลี่-หอย!!

        พิธีกรอารมณ์ดี เปิ้ล นาคร โผล่! เปิดใจสาเหตุถอนหุ้นจาก บริษัท ลักษ์ 666 หลังถูกปลดพิธีกรพ้นรายการ สาระแน ฟ้าผ่า!

         ''อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าเราอยากจะใช้เวลาในการทำงานของเราให้มันน้อยลงเพื่อที่จะได้มีเวลาอยู่กับลูกเยอะๆ อันนี้เป็นประเด็นนึง ส่วนอีกประเด็นที่หอยเคยออกมาบอกแล้วว่าที่พี่เปิ้ลออกไปเพราะว่าอาจจะไม่เห็นด้วยกับระบบการบริหารใหม่ของบริษัท ลักษ์ 666 ที่ทำมาก็เลยไม่ถนัดที่จะทำระบบรูปแบบใหม่ก็เป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้ถอยออกมา อีกอย่างองค์กรใหญ่ขึ้น ทำงานกันเยอะขึ้น บางทีพาลูกไปว่ายน้ำ ไปเรียนมันก็เกรงใจเขา เราเลยคิดว่าทำน้อยกว่าคนอื่นหรือเปล่า ทีนี่มีอีกสาเหตุนึงคือน่าจะเป็นสาเหตุสุดท้ายที่ตัดสินใจที่ถอนหุ้นจริงๆ คือก่อนหน้านี้ทางเขามาแจ้งพี่เปิ้ลว่าเขาจะปิดบริษัท ลักษ์ฟิล์ม ซึ่งพี่เปิ้ลทำหน้าที่บริหารอยู่และดูแลหน่วยงานนั้นอยู่ เราก็ถามว่าจะปิดจริงเหรออย่าเพิ่งปิดเลย เพราะว่าพี่เปิ้ลดูแลอยู่และถ้ามีอะไรบกพร่องขอทำให้เต็มความสามารถก่อนได้มั้ย เราก็โอกาสที่จะลงไปทำให้มันเต็มที่ของเราก่อน แต่มีนโยบายว่าจะต้องปิดจนในที่สุดก็เกิดเหตุการณ์คือผู้บริหารและบางคนก็ตัดสินใจลาออกไปในส่วนของ ลักษ์ฟิล์ม เราเลยมีความรู้สึกว่าสงสัยเราเอาไม่อยู่และดูแลลูกน้องตลอดรอดฝั่งไม่ได้มันก็เลยเป็นเหตุอีกอันนึงที่ทำให้พี่เปิ้ลตัดสินใจถอนหุ้น''

         ''พอหลังจากขอถอนหุ้นเขาก็ประกาศแจ้งกับพนักงานเลยว่าเราจะปิดบริษัท ลักษ์ฟิล์ม ก็เป็นเหตุให้น้องๆ ทุกคนในลักษ์ฟิล์มก็ลาออกกันหมดนั่นคือเหตุผลในเรื่องของระบบ เรื่องของการบริหารที่เราอาจจะทำไม่ถึงตามเป้าที่เขาวางไว้ก็เลยตัดสินใจออกจากผู้บริหาร ตอนนั้นก็บอกว่าถึงแม้พี่เปิ้ลจะไม่บริหารแล้วแต่เราคงทำงานร่วมกันต่อทางบริษัทจ้างพี่เปิ้ลเป็นพิธีกรรายการสาระแนวันนึงถ้าพี่เปิ้ลทำบริษัทหรืออะไรเราจ้างกันไปมาน้องจ้างพี่พี่จ้างน้องเราอยู่แบบไม่ต้องทะเลาะกัน ทำงานด้วยกันต่อไปอันนี้คือสิ่งที่เราคุยกันไว้ จากนั้นเราก็เป็นคนรับจ้างของเขาและทำงานกันด้วยดีตลอดมา''

         ''ถามว่าเราก็เป็นหุ้นไม่มีส่วนในนโยบายเหรอ ไม่มีครับ บางทีนโยบาย 4:1 ความคิดส่วนรวมเป็นยังไงเราต้องเอาความคิดส่วนรวมเป็นหลัก (แบ่งพรรคแบ่งพวก?) ไม่ได้แบ่งพรรคแบ่งพวก แต่ละคนแยกย้ายกันไป แต่ก่อนเราบริหารอยู่ทีวีวิลลี่กับหอยก็บอกให้เราย้ายมาดูแลฟิล์มแล้วเขาก็ไปทำทีวีพพอเวลามีอะไรก็จะแบ่งงานกันทำอย่างชัดเจน (ส่วนนึงเป็นเพราะเราออกมาตั้งบริษัทเองหรือเปล่า?) หลังจากนั้นการตั้งบริษัทหนังเองคือจะบอกก่อนว่าบริษัทที่พี่เปิ้ลเปิดใหม่ไม่ใช่บริษัทผลิตภาพยนตร์เป็นบริษัทรับงานสานฝันทุกอย่าง เพราะพี่เปิ้ลเกิดมาจากการทำรายการทีวี ละครเวที เขียนหนังสือ ทำภาพยนตร์ ทุกอย่างมันเป็นฝันของพี่เปิ้ลทั้งนั้น ฉะนั้นบริษัทนี้เป็นบริษัทเอ็นเตอร์เทนที่เกี่ยวกับตัวพี่เปิ้ลอันนี้หลังจากถอนหุ้นไปแล้วมันไม่ใช่ว่าเราเปิดบริษัทหนังไปค่อมกับลักษ์ฟิล์มที่มีอยู่ทุกวันนี้บริษัทที่ตัวเองเปิดอยู่ก็ยังไม่มีงานหนังอะไรเลย''

         ''ส่วนที่ทางนั้นพูดเหมือนเราทำงานทับลายบริษัท ลักษ์ 666คืออันนี้เราต้องแจ้งก่อนว่าอย่างที่บอกเขาบอกจะปิดลักษ์ฟิล์มแล้วเราก็ออกมาเปิดบริษัทเพื่อรับงานส่วนตัวและก็รับจ้างพิธีกรรับ จ้างแสดง ถ้าบอกว่าไม่ให้พี่เปิ้ลเปิดบริษัททำอะไรที่ไปลับลายกับเขานั่นหมายความว่าสิ่งที่พี่เปิ้ลรักคือการปั้นฝันพี่เปิ้ลต้องไปขายโคขุนโดยที่กลับมาทำงานบันเทิงไม่ได้อีกเลย งานโคขุนเป็นงานที่ทำเลี้ยงปาก เลี้ยงท้อง เลี้ยงลูก ส่วนงานบันเทิงทั้งหมดมันคืองานเลี้ยงฝันของพี่เปิ้ลยังไงก็เลิกพวกนี้ไม่ได้ (แปลกใจมั้ยที่เขาปิดลักษ์ฟิล์มที่สุดท้ายก็มาทำหนัง สาระแนโอเซกไก?) อันนี้ไม่ทราบว่าเขาคิดยังไง (น้อยใจมั้ย?) ไม่น้อยใจมันเป็นเรื่องของธุรกิจเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหยุดตรงนั้นไปเลย(หลายคนมองว่าเราก็ทำหนังมาชน?) ตั้งแต่ที่ออกมาอยากจะบอกว่ารับจ้างเล่นอย่างเดียวไม่ใช่หนังของบริษัทแต่อย่างใด''

          ''และเรื่องที่ถูกปลดแล้ววิลลี่บอกว่าพี่เปิ้ลเข้าใจดีคือสื่งที่เขาบอกมาว่าให้เลิกเป็นพิธีกรเราก็เข้าใจว่าวันนึงมันต้องมาถึงวันนี้ก็ได้ 15 ปีมันอาจจะไม่แน่นอน แต่สิ่งที่เราเสียใจคือตั้งตัวไม่ทันแค่นั่นเองมันพูดอะไรไม่ออก เรายังไม่ทันได้ลาน้องๆ เลยและที่สำคัญคือถ้าเกิดเราอยู่ก่อนอย่างน้อยเทปสุดท้ายจะได้ถือดอกไม้หรือธูปเทียนไหว้กราบลาคนดูที่เป็นแฟนสาระแนมาตลอด 15 ปีโอเคมันยังคงดำเนินต่อไป แต่ตัวเราจบแล้วแม่เราสอนว่าไปลามาไหว้เราก็อยากจะได้มีโอกาสได้ลาคนดูบ้างมันเลยเสียใจตอนนี้หายแล้วเข้าใจดีครับ (วิลลี่บอกว่าความเป็นเพื่อนยังเหมือนเดิมเราล่ะ?) ความเป็นเพื่อนเหมือนเดิมมั้ยเรียกใช้กันได้พี่เปิ้ลเคยบอกไว้แล้วว่าถึงแม้เรื่องของธุรกิจถ้าคิดเห็นแตกต่างกันสุดท้ายความสัมพันธ์เรายังใช้กันได้ ไม่จำเป็นทะเลาะกันโตแล้วไม่ใช่เด็กๆ ถามว่าสบายใจเหมือนเดิมมั้ย ณ วันนี้ทุกอย่างมันต้องเดินไปและตั้งตัวใหม่ให้ได้ (เคยร้องไห้มั้ย?) ร้องไห้ครั้งนี้แหละครั้งแรกหลังจากที่วิลลี่บอกเราขึ้นรถแล้วคิดอะไรไม่ออกมันก็เลยร้องไห้โฮออกมาแค่นั้นเอง (หลังจากถูกปลดได้คุยกันหรือยัง?) ยังไม่ได้คุยกันเลยที่วิลลี่บอกจะโทรหาก็ไม่มีครับ (จะเคลียร์มั้ย) ไม่รู้จะเคลียร์อะไร เพราะวันนั้นพี่เปิ้ลพูดออกมาคำนึงตอนที่วิลลี่บอกว่าไม่รบกวนพี่เปิ้ลแล้ว เราก็บอกว่าแล้วแต่เสียงของผู้บริหารแล้วกันไม่เป็นไร''

          ''วันนี้ก็อยากกราบลาคนดูแฟนๆ สาระแนทุกคน 15 ปีที่รู้จักเปิ้ลในนามสาระแนมาแล้วก็อยากจะบอกว่าสิ่งที่ทำไปเพราะว่ารักที่จะทำมันเคยคิดว่าตายไปกับรายการรูปแบบแคนดิด แต่วันนี้กับสาระแนไม่มีเปิ้ลแล้วก็ขอบคุณพี่น้องทุกคนวันนี้ก็ต้องขอกราบลาทุกคนครับ (หลายคนมองว่ามีปัญหาเรื่องเงิน?) ไม่มีครับ เป็นเรื่องนโยบายและความคิดมากกว่าเลยทำให้พี่เปิ้ลเลยออกมาดีกว่า''พิธีกรอารมณ์ดี เปิ้ล นาคร รับสุดเสียใจถึงขั้นร้องไห้! ถูกปลดพิธีกรรายการ สาระแน ฟ้าผ่า! ออกปากเข้าใจแต่ไม่ทันตั้งตัวและเอ่ยลาคนดู ยันไม่มีอะไรเคลียร์ ก่อนแจงสาเหตุถอนหุ้น เพราะรับนโยบายใหม่ของบริษัทไม่ได้ โต้มีปัญหาเรื่องเงิน โต้เปิดบริษัททำหนังแข่ง อุบตอบความสัมพันธ์ วิลลี่-หอย!!

        พิธีกรอารมณ์ดี เปิ้ล นาคร โผล่! เปิดใจสาเหตุถอนหุ้นจาก บริษัท ลักษ์ 666 หลังถูกปลดพิธีกรพ้นรายการ สาระแน ฟ้าผ่า!

         ''อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าเราอยากจะใช้เวลาในการทำงานของเราให้มันน้อยลงเพื่อที่จะได้มีเวลาอยู่กับลูกเยอะๆ อันนี้เป็นประเด็นนึง ส่วนอีกประเด็นที่หอยเคยออกมาบอกแล้วว่าที่พี่เปิ้ลออกไปเพราะว่าอาจจะไม่เห็นด้วยกับระบบการบริหารใหม่ของบริษัท ลักษ์ 666 ที่ทำมาก็เลยไม่ถนัดที่จะทำระบบรูปแบบใหม่ก็เป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้ถอยออกมา อีกอย่างองค์กรใหญ่ขึ้น ทำงานกันเยอะขึ้น บางทีพาลูกไปว่ายน้ำ ไปเรียนมันก็เกรงใจเขา เราเลยคิดว่าทำน้อยกว่าคนอื่นหรือเปล่า ทีนี่มีอีกสาเหตุนึงคือน่าจะเป็นสาเหตุสุดท้ายที่ตัดสินใจที่ถอนหุ้นจริงๆ คือก่อนหน้านี้ทางเขามาแจ้งพี่เปิ้ลว่าเขาจะปิดบริษัท ลักษ์ฟิล์ม ซึ่งพี่เปิ้ลทำหน้าที่บริหารอยู่และดูแลหน่วยงานนั้นอยู่ เราก็ถามว่าจะปิดจริงเหรออย่าเพิ่งปิดเลย เพราะว่าพี่เปิ้ลดูแลอยู่และถ้ามีอะไรบกพร่องขอทำให้เต็มความสามารถก่อนได้มั้ย เราก็โอกาสที่จะลงไปทำให้มันเต็มที่ของเราก่อน แต่มีนโยบายว่าจะต้องปิดจนในที่สุดก็เกิดเหตุการณ์คือผู้บริหารและบางคนก็ตัดสินใจลาออกไปในส่วนของ ลักษ์ฟิล์ม เราเลยมีความรู้สึกว่าสงสัยเราเอาไม่อยู่และดูแลลูกน้องตลอดรอดฝั่งไม่ได้มันก็เลยเป็นเหตุอีกอันนึงที่ทำให้พี่เปิ้ลตัดสินใจถอนหุ้น''

         ''พอหลังจากขอถอนหุ้นเขาก็ประกาศแจ้งกับพนักงานเลยว่าเราจะปิดบริษัท ลักษ์ฟิล์ม ก็เป็นเหตุให้น้องๆ ทุกคนในลักษ์ฟิล์มก็ลาออกกันหมดนั่นคือเหตุผลในเรื่องของระบบ เรื่องของการบริหารที่เราอาจจะทำไม่ถึงตามเป้าที่เขาวางไว้ก็เลยตัดสินใจออกจากผู้บริหาร ตอนนั้นก็บอกว่าถึงแม้พี่เปิ้ลจะไม่บริหารแล้วแต่เราคงทำงานร่วมกันต่อทางบริษัทจ้างพี่เปิ้ลเป็นพิธีกรรายการสาระแนวันนึงถ้าพี่เปิ้ลทำบริษัทหรืออะไรเราจ้างกันไปมาน้องจ้างพี่พี่จ้างน้องเราอยู่แบบไม่ต้องทะเลาะกัน ทำงานด้วยกันต่อไปอันนี้คือสิ่งที่เราคุยกันไว้ จากนั้นเราก็เป็นคนรับจ้างของเขาและทำงานกันด้วยดีตลอดมา''

         ''ถามว่าเราก็เป็นหุ้นไม่มีส่วนในนโยบายเหรอ ไม่มีครับ บางทีนโยบาย 4:1 ความคิดส่วนรวมเป็นยังไงเราต้องเอาความคิดส่วนรวมเป็นหลัก (แบ่งพรรคแบ่งพวก?) ไม่ได้แบ่งพรรคแบ่งพวก แต่ละคนแยกย้ายกันไป แต่ก่อนเราบริหารอยู่ทีวีวิลลี่กับหอยก็บอกให้เราย้ายมาดูแลฟิล์มแล้วเขาก็ไปทำทีวีพพอเวลามีอะไรก็จะแบ่งงานกันทำอย่างชัดเจน (ส่วนนึงเป็นเพราะเราออกมาตั้งบริษัทเองหรือเปล่า?) หลังจากนั้นการตั้งบริษัทหนังเองคือจะบอกก่อนว่าบริษัทที่พี่เปิ้ลเปิดใหม่ไม่ใช่บริษัทผลิตภาพยนตร์เป็นบริษัทรับงานสานฝันทุกอย่าง เพราะพี่เปิ้ลเกิดมาจากการทำรายการทีวี ละครเวที เขียนหนังสือ ทำภาพยนตร์ ทุกอย่างมันเป็นฝันของพี่เปิ้ลทั้งนั้น ฉะนั้นบริษัทนี้เป็นบริษัทเอ็นเตอร์เทนที่เกี่ยวกับตัวพี่เปิ้ลอันนี้หลังจากถอนหุ้นไปแล้วมันไม่ใช่ว่าเราเปิดบริษัทหนังไปค่อมกับลักษ์ฟิล์มที่มีอยู่ทุกวันนี้บริษัทที่ตัวเองเปิดอยู่ก็ยังไม่มีงานหนังอะไรเลย''

         ''ส่วนที่ทางนั้นพูดเหมือนเราทำงานทับลายบริษัท ลักษ์ 666คืออันนี้เราต้องแจ้งก่อนว่าอย่างที่บอกเขาบอกจะปิดลักษ์ฟิล์มแล้วเราก็ออกมาเปิดบริษัทเพื่อรับงานส่วนตัวและก็รับจ้างพิธีกรรับ จ้างแสดง ถ้าบอกว่าไม่ให้พี่เปิ้ลเปิดบริษัททำอะไรที่ไปลับลายกับเขานั่นหมายความว่าสิ่งที่พี่เปิ้ลรักคือการปั้นฝันพี่เปิ้ลต้องไปขายโคขุนโดยที่กลับมาทำงานบันเทิงไม่ได้อีกเลย งานโคขุนเป็นงานที่ทำเลี้ยงปาก เลี้ยงท้อง เลี้ยงลูก ส่วนงานบันเทิงทั้งหมดมันคืองานเลี้ยงฝันของพี่เปิ้ลยังไงก็เลิกพวกนี้ไม่ได้ (แปลกใจมั้ยที่เขาปิดลักษ์ฟิล์มที่สุดท้ายก็มาทำหนัง สาระแนโอเซกไก?) อันนี้ไม่ทราบว่าเขาคิดยังไง (น้อยใจมั้ย?) ไม่น้อยใจมันเป็นเรื่องของธุรกิจเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหยุดตรงนั้นไปเลย(หลายคนมองว่าเราก็ทำหนังมาชน?) ตั้งแต่ที่ออกมาอยากจะบอกว่ารับจ้างเล่นอย่างเดียวไม่ใช่หนังของบริษัทแต่อย่างใด''

          ''และเรื่องที่ถูกปลดแล้ววิลลี่บอกว่าพี่เปิ้ลเข้าใจดีคือสื่งที่เขาบอกมาว่าให้เลิกเป็นพิธีกรเราก็เข้าใจว่าวันนึงมันต้องมาถึงวันนี้ก็ได้ 15 ปีมันอาจจะไม่แน่นอน แต่สิ่งที่เราเสียใจคือตั้งตัวไม่ทันแค่นั่นเองมันพูดอะไรไม่ออก เรายังไม่ทันได้ลาน้องๆ เลยและที่สำคัญคือถ้าเกิดเราอยู่ก่อนอย่างน้อยเทปสุดท้ายจะได้ถือดอกไม้หรือธูปเทียนไหว้กราบลาคนดูที่เป็นแฟนสาระแนมาตลอด 15 ปีโอเคมันยังคงดำเนินต่อไป แต่ตัวเราจบแล้วแม่เราสอนว่าไปลามาไหว้เราก็อยากจะได้มีโอกาสได้ลาคนดูบ้างมันเลยเสียใจตอนนี้หายแล้วเข้าใจดีครับ (วิลลี่บอกว่าความเป็นเพื่อนยังเหมือนเดิมเราล่ะ?) ความเป็นเพื่อนเหมือนเดิมมั้ยเรียกใช้กันได้พี่เปิ้ลเคยบอกไว้แล้วว่าถึงแม้เรื่องของธุรกิจถ้าคิดเห็นแตกต่างกันสุดท้ายความสัมพันธ์เรายังใช้กันได้ ไม่จำเป็นทะเลาะกันโตแล้วไม่ใช่เด็กๆ ถามว่าสบายใจเหมือนเดิมมั้ย ณ วันนี้ทุกอย่างมันต้องเดินไปและตั้งตัวใหม่ให้ได้ (เคยร้องไห้มั้ย?) ร้องไห้ครั้งนี้แหละครั้งแรกหลังจากที่วิลลี่บอกเราขึ้นรถแล้วคิดอะไรไม่ออกมันก็เลยร้องไห้โฮออกมาแค่นั้นเอง (หลังจากถูกปลดได้คุยกันหรือยัง?) ยังไม่ได้คุยกันเลยที่วิลลี่บอกจะโทรหาก็ไม่มีครับ (จะเคลียร์มั้ย) ไม่รู้จะเคลียร์อะไร เพราะวันนั้นพี่เปิ้ลพูดออกมาคำนึงตอนที่วิลลี่บอกว่าไม่รบกวนพี่เปิ้ลแล้ว เราก็บอกว่าแล้วแต่เสียงของผู้บริหารแล้วกันไม่เป็นไร''

          ''วันนี้ก็อยากกราบลาคนดูแฟนๆ สาระแนทุกคน 15 ปีที่รู้จักเปิ้ลในนามสาระแนมาแล้วก็อยากจะบอกว่าสิ่งที่ทำไปเพราะว่ารักที่จะทำมันเคยคิดว่าตายไปกับรายการรูปแบบแคนดิด แต่วันนี้กับสาระแนไม่มีเปิ้ลแล้วก็ขอบคุณพี่น้องทุกคนวันนี้ก็ต้องขอกราบลาทุกคนครับ (หลายคนมองว่ามีปัญหาเรื่องเงิน?) ไม่มีครับ เป็นเรื่องนโยบายและความคิดมากกว่าเลยทำให้พี่เปิ้ลเลยออกมาดีกว่า''พิธีกรอารมณ์ดี เปิ้ล นาคร รับสุดเสียใจถึงขั้นร้องไห้! ถูกปลดพิธีกรรายการ สาระแน ฟ้าผ่า! ออกปากเข้าใจแต่ไม่ทันตั้งตัวและเอ่ยลาคนดู ยันไม่มีอะไรเคลียร์ ก่อนแจงสาเหตุถอนหุ้น เพราะรับนโยบายใหม่ของบริษัทไม่ได้ โต้มีปัญหาเรื่องเงิน โต้เปิดบริษัททำหนังแข่ง อุบตอบความสัมพันธ์ วิลลี่-หอย!!

        พิธีกรอารมณ์ดี เปิ้ล นาคร โผล่! เปิดใจสาเหตุถอนหุ้นจาก บริษัท ลักษ์ 666 หลังถูกปลดพิธีกรพ้นรายการ สาระแน ฟ้าผ่า!

         ''อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าเราอยากจะใช้เวลาในการทำงานของเราให้มันน้อยลงเพื่อที่จะได้มีเวลาอยู่กับลูกเยอะๆ อันนี้เป็นประเด็นนึง ส่วนอีกประเด็นที่หอยเคยออกมาบอกแล้วว่าที่พี่เปิ้ลออกไปเพราะว่าอาจจะไม่เห็นด้วยกับระบบการบริหารใหม่ของบริษัท ลักษ์ 666 ที่ทำมาก็เลยไม่ถนัดที่จะทำระบบรูปแบบใหม่ก็เป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้ถอยออกมา อีกอย่างองค์กรใหญ่ขึ้น ทำงานกันเยอะขึ้น บางทีพาลูกไปว่ายน้ำ ไปเรียนมันก็เกรงใจเขา เราเลยคิดว่าทำน้อยกว่าคนอื่นหรือเปล่า ทีนี่มีอีกสาเหตุนึงคือน่าจะเป็นสาเหตุสุดท้ายที่ตัดสินใจที่ถอนหุ้นจริงๆ คือก่อนหน้านี้ทางเขามาแจ้งพี่เปิ้ลว่าเขาจะปิดบริษัท ลักษ์ฟิล์ม ซึ่งพี่เปิ้ลทำหน้าที่บริหารอยู่และดูแลหน่วยงานนั้นอยู่ เราก็ถามว่าจะปิดจริงเหรออย่าเพิ่งปิดเลย เพราะว่าพี่เปิ้ลดูแลอยู่และถ้ามีอะไรบกพร่องขอทำให้เต็มความสามารถก่อนได้มั้ย เราก็โอกาสที่จะลงไปทำให้มันเต็มที่ของเราก่อน แต่มีนโยบายว่าจะต้องปิดจนในที่สุดก็เกิดเหตุการณ์คือผู้บริหารและบางคนก็ตัดสินใจลาออกไปในส่วนของ ลักษ์ฟิล์ม เราเลยมีความรู้สึกว่าสงสัยเราเอาไม่อยู่และดูแลลูกน้องตลอดรอดฝั่งไม่ได้มันก็เลยเป็นเหตุอีกอันนึงที่ทำให้พี่เปิ้ลตัดสินใจถอนหุ้น''

         ''พอหลังจากขอถอนหุ้นเขาก็ประกาศแจ้งกับพนักงานเลยว่าเราจะปิดบริษัท ลักษ์ฟิล์ม ก็เป็นเหตุให้น้องๆ ทุกคนในลักษ์ฟิล์มก็ลาออกกันหมดนั่นคือเหตุผลในเรื่องของระบบ เรื่องของการบริหารที่เราอาจจะทำไม่ถึงตามเป้าที่เขาวางไว้ก็เลยตัดสินใจออกจากผู้บริหาร ตอนนั้นก็บอกว่าถึงแม้พี่เปิ้ลจะไม่บริหารแล้วแต่เราคงทำงานร่วมกันต่อทางบริษัทจ้างพี่เปิ้ลเป็นพิธีกรรายการสาระแนวันนึงถ้าพี่เปิ้ลทำบริษัทหรืออะไรเราจ้างกันไปมาน้องจ้างพี่พี่จ้างน้องเราอยู่แบบไม่ต้องทะเลาะกัน ทำงานด้วยกันต่อไปอันนี้คือสิ่งที่เราคุยกันไว้ จากนั้นเราก็เป็นคนรับจ้างของเขาและทำงานกันด้วยดีตลอดมา''

         ''ถามว่าเราก็เป็นหุ้นไม่มีส่วนในนโยบายเหรอ ไม่มีครับ บางทีนโยบาย 4:1 ความคิดส่วนรวมเป็นยังไงเราต้องเอาความคิดส่วนรวมเป็นหลัก (แบ่งพรรคแบ่งพวก?) ไม่ได้แบ่งพรรคแบ่งพวก แต่ละคนแยกย้ายกันไป แต่ก่อนเราบริหารอยู่ทีวีวิลลี่กับหอยก็บอกให้เราย้ายมาดูแลฟิล์มแล้วเขาก็ไปทำทีวีพพอเวลามีอะไรก็จะแบ่งงานกันทำอย่างชัดเจน (ส่วนนึงเป็นเพราะเราออกมาตั้งบริษัทเองหรือเปล่า?) หลังจากนั้นการตั้งบริษัทหนังเองคือจะบอกก่อนว่าบริษัทที่พี่เปิ้ลเปิดใหม่ไม่ใช่บริษัทผลิตภาพยนตร์เป็นบริษัทรับงานสานฝันทุกอย่าง เพราะพี่เปิ้ลเกิดมาจากการทำรายการทีวี ละครเวที เขียนหนังสือ ทำภาพยนตร์ ทุกอย่างมันเป็นฝันของพี่เปิ้ลทั้งนั้น ฉะนั้นบริษัทนี้เป็นบริษัทเอ็นเตอร์เทนที่เกี่ยวกับตัวพี่เปิ้ลอันนี้หลังจากถอนหุ้นไปแล้วมันไม่ใช่ว่าเราเปิดบริษัทหนังไปค่อมกับลักษ์ฟิล์มที่มีอยู่ทุกวันนี้บริษัทที่ตัวเองเปิดอยู่ก็ยังไม่มีงานหนังอะไรเลย''

         ''ส่วนที่ทางนั้นพูดเหมือนเราทำงานทับลายบริษัท ลักษ์ 666คืออันนี้เราต้องแจ้งก่อนว่าอย่างที่บอกเขาบอกจะปิดลักษ์ฟิล์มแล้วเราก็ออกมาเปิดบริษัทเพื่อรับงานส่วนตัวและก็รับจ้างพิธีกรรับ จ้างแสดง ถ้าบอกว่าไม่ให้พี่เปิ้ลเปิดบริษัททำอะไรที่ไปลับลายกับเขานั่นหมายความว่าสิ่งที่พี่เปิ้ลรักคือการปั้นฝันพี่เปิ้ลต้องไปขายโคขุนโดยที่กลับมาทำงานบันเทิงไม่ได้อีกเลย งานโคขุนเป็นงานที่ทำเลี้ยงปาก เลี้ยงท้อง เลี้ยงลูก ส่วนงานบันเทิงทั้งหมดมันคืองานเลี้ยงฝันของพี่เปิ้ลยังไงก็เลิกพวกนี้ไม่ได้ (แปลกใจมั้ยที่เขาปิดลักษ์ฟิล์มที่สุดท้ายก็มาทำหนัง สาระแนโอเซกไก?) อันนี้ไม่ทราบว่าเขาคิดยังไง (น้อยใจมั้ย?) ไม่น้อยใจมันเป็นเรื่องของธุรกิจเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหยุดตรงนั้นไปเลย(หลายคนมองว่าเราก็ทำหนังมาชน?) ตั้งแต่ที่ออกมาอยากจะบอกว่ารับจ้างเล่นอย่างเดียวไม่ใช่หนังของบริษัทแต่อย่างใด''

          ''และเรื่องที่ถูกปลดแล้ววิลลี่บอกว่าพี่เปิ้ลเข้าใจดีคือสื่งที่เขาบอกมาว่าให้เลิกเป็นพิธีกรเราก็เข้าใจว่าวันนึงมันต้องมาถึงวันนี้ก็ได้ 15 ปีมันอาจจะไม่แน่นอน แต่สิ่งที่เราเสียใจคือตั้งตัวไม่ทันแค่นั่นเองมันพูดอะไรไม่ออก เรายังไม่ทันได้ลาน้องๆ เลยและที่สำคัญคือถ้าเกิดเราอยู่ก่อนอย่างน้อยเทปสุดท้ายจะได้ถือดอกไม้หรือธูปเทียนไหว้กราบลาคนดูที่เป็นแฟนสาระแนมาตลอด 15 ปีโอเคมันยังคงดำเนินต่อไป แต่ตัวเราจบแล้วแม่เราสอนว่าไปลามาไหว้เราก็อยากจะได้มีโอกาสได้ลาคนดูบ้างมันเลยเสียใจตอนนี้หายแล้วเข้าใจดีครับ (วิลลี่บอกว่าความเป็นเพื่อนยังเหมือนเดิมเราล่ะ?) ความเป็นเพื่อนเหมือนเดิมมั้ยเรียกใช้กันได้พี่เปิ้ลเคยบอกไว้แล้วว่าถึงแม้เรื่องของธุรกิจถ้าคิดเห็นแตกต่างกันสุดท้ายความสัมพันธ์เรายังใช้กันได้ ไม่จำเป็นทะเลาะกันโตแล้วไม่ใช่เด็กๆ ถามว่าสบายใจเหมือนเดิมมั้ย ณ วันนี้ทุกอย่างมันต้องเดินไปและตั้งตัวใหม่ให้ได้ (เคยร้องไห้มั้ย?) ร้องไห้ครั้งนี้แหละครั้งแรกหลังจากที่วิลลี่บอกเราขึ้นรถแล้วคิดอะไรไม่ออกมันก็เลยร้องไห้โฮออกมาแค่นั้นเอง (หลังจากถูกปลดได้คุยกันหรือยัง?) ยังไม่ได้คุยกันเลยที่วิลลี่บอกจะโทรหาก็ไม่มีครับ (จะเคลียร์มั้ย) ไม่รู้จะเคลียร์อะไร เพราะวันนั้นพี่เปิ้ลพูดออกมาคำนึงตอนที่วิลลี่บอกว่าไม่รบกวนพี่เปิ้ลแล้ว เราก็บอกว่าแล้วแต่เสียงของผู้บริหารแล้วกันไม่เป็นไร''

          ''วันนี้ก็อยากกราบลาคนดูแฟนๆ สาระแนทุกคน 15 ปีที่รู้จักเปิ้ลในนามสาระแนมาแล้วก็อยากจะบอกว่าสิ่งที่ทำไปเพราะว่ารักที่จะทำมันเคยคิดว่าตายไปกับรายการรูปแบบแคนดิด แต่วันนี้กับสาระแนไม่มีเปิ้ลแล้วก็ขอบคุณพี่น้องทุกคนวันนี้ก็ต้องขอกราบลาทุกคนครับ (หลายคนมองว่ามีปัญหาเรื่องเงิน?) ไม่มีครับ เป็นเรื่องนโยบายและความคิดมากกว่าเลยทำให้พี่เปิ้ลเลยออกมาดีกว่า''



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น