เกมส์ครึ่งแรก
เริ่มเกมส์ นาทีที่ 5 เป็น”กระทิงดุ” ที่ได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะประมาณ 35 หลาตรงกลางประตู แล้วเป็น เซร์คิโอ รามอส รับหน้าที่กดด้วยหลังเท้า แต่บอลพุ่งหลุดกรอบออกไป แล้วเป็นแชมป์เก่า ที่ได้บุกอย่างต่อเนื่อง โดย รามอส คนเดิม ที่ทะยานขึ้นโขกลูกเตะมุมที่ ชาบี เฮอร์นานเดซ โยนเข้ามาให้จากทางขวา แต่บอลก็ยังไม่ตรงกรอบ 10นาทีแรกเกมส์เป็นของสเปนอย่างชัดเจน และมีจังหวะจบสกอร์เน้นๆ จากจังหวะที่ ซาบีทำชิ่งกับ เชส ฟาเบรกาส ก่อนที่ซาบี จะได้กดด้วยขวา บอลข้ามคานไปนิดเดียว
แค่ 13 นาที สเปนที่ครองบอลบุกอยู่ตั้งแต่เริ่มเกมส์ ก็มาได้ประตูขึ้นนำก่อนจนได้ จากลูกที่ อิเนียสต้า แทงบอลทะลุช่องให้ ฟาเบรกาส ควบหนี จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ก่อนเปิดยัดไปหน้าประตูให้ ดาบิด ซิลบา สอดขึ้นมาโขกเต็มๆ ให้สเปนขึ้นนำอิตาลีอย่างรวดเร็ว 1-0 นาที 20 สถานการณ์ของอิตาลีย่ำแย่เข้าไปอีกเมื่อ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ บาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ บรันเดลี่ ต้องจำใจส่ง เฟเดริโก้ บัลซาเรตติ ลงมาเล่นแทน นาที 28 อิตาลี ได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะที่ ดานิเอเล่ เด รอสซี่ แทงบอลทะลุช่องให้ อันโตนิโอ คาสซาโน่ หลุดขึ้นไปทางซ้ายก่อนล็อคหลบ อัลบาโร่ อาร์เบลัว แล้วยิงลอดขา เคราร์ด ปิเก้ ที่พยายามวิ่งมาบล็อก แต่บอลตรงตัว อิเกร์ กาซิยาส นายทวารกับตันทีมสเปน
นาที 33 อิตาลีเริ่มตั้งเกมส์ได้ และได้ส่องไกลจากคาสซาโน่ ที่กดด้วยขวาเต็มแรง แต่ กาซิยาส ยังเยี่ยม โดยพุ่งปัดบอลออกไปได้ นาที 37 คู่กองหน้าซ้ายซ่า ขวา เกรียน ประสานงานกัน เมื่อ บาโลเตลลี่ ทำชิ่งกับ คาสซาโน่ ก่อนที่ศูนย์หน้าจากแมนซิตี้จะลองกดด้วยขวา แต่บอลหลุดกรอบไปไกล นาที 41 กระทิงดุ มาดุสมชื่อ ซาบี เฮอร์นานเดซ แทงบอลทะลุช่องให้ จอร์ดี้ อัลบา แบ๊กซ้ายดาวรุ่งที่ควบมาจากแดนตัวเอง ได้หลุดเข้าไปล่อเป้า จานลุยจิ บุฟฟ่อน สเปนหนีห่างเป็น 2-0
ผลบอลครึ่งแรก ฟุตบอลยูโร 2012 สเปน 2 – 0 อิตาลี
เกมส์ครึ่งหลัง
ครึ่งหลัง อิตาลีพยายามทวงคืนในช่วงแรก แต่จากนั้นเกมตกอยู่ในการควบคุมของสเปนเป็นหลัก กระทั่งเฟอร์นันโด ตอร์เรส เปลี่ยนตัวลงมาและทำประตูเพิ่มให้สเปนเป็น 3-0 ส่วนฮวน มาต้าเปลี่ยนตัวตามมา ทำประตูเพิ่มให้ทีมกระทิงดุอีกเป็น 4-0
ชัยชนะในการแข่งขันครั้งนี้ ทำให้สเปนคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 ต่อจากแชมป์ยูโร 2008 และแชมป์บอลโลก 2010 และสร้างสถิติทำประตูสูงสุดในนัดชิงของยูโร
ผลบอล ฟุตบอลยูโร 2012 สเปน 4 – 0 อิตาลี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น