เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
นางสาวพรทิพย์ จันสะอาด รหัส 52031390165

วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

'กิตติรัตน์' ยันขึ้นก๊าซหุงต้ม แต่ทยอยปรับราคา

'กิตติรัตน์' ยันขึ้นก๊าซหุงต้ม แต่ทยอยปรับราคา
“กิตติรัตน์” ยันรัฐบาลขึ้นราคาก๊าซหุงต้มแน่ แต่ค่อยเป็นค่อยไป ส่วน 16 ส.ค.นี้ขึ้นหรือไม่ กำลังพิจารณาอยู่ ด้าน “พาณิชย์” แนะให้ขึ้นราคาในภาคที่กระทบน้อยสุดก่อน อย่างขนส่ง-อุตสาหกรรม ระบุ ขึ้นโลละบาท ต้นทุนข้าวแกงขึ้นแค่จานละสลึง
เมื่อวันที่ 16 ก.ค. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยถึงนโยบายการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ภาคครัวเรือนว่า รัฐบาลจำเป็นต้องปรับขึ้นแน่นอน เพื่อให้ใกล้เคียงกับราคาในตลาดโลก หลังจากรัฐบาลที่ผ่านมา ได้อุดหนุนเป็นเวลานาน จนทำให้ราคาของไทยบิดเบือนจากราคาตลาดโลกไปมาก อย่างไรก็ตาม หากจะปรับขึ้นคงต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ปรับขึ้นครั้งเดียวจนเต็มเพดานราคาแน่นอน เพราะจะทำให้ประชาชนเดือดร้อนเกินไปข่าวด่วนส่วนในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ที่มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะปรับขึ้นนั้น ไม่ทราบว่าข่าวมาจากที่ใด แต่ขณะนี้เป็นไปได้ว่า วันที่ 16 ส.ค.นี้ รัฐบาลอาจปรับขึ้นหรือไม่ก็ได้ เพราะอยู่ระหว่างการพิจารณาผลกระทบอย่างรอบด้าน
“ขอย้ำว่า รัฐบาลต้องปรับขึ้นราคาแอลพีจีแน่นอน เพื่อทำให้ราคาในประเทศเป็นไปตามราคาตลาดโลก แต่ต้องพิจารณาตามความเหมาะสม โดยเฉพาะจะต้องไม่กระทบกับประชาชนผู้ใช้ก๊าซมากเกินไป และต้องไม่กระทบกับภาวะเงินเฟ้อในประเทศด้วย ซึ่งเงินเฟ้อของไทยในปีนี้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม คือ เงินเฟ้อพื้นฐาน และพลังงานออกจากคำนวณในปีนี้ของไทยตั้งเป้าอยู่ที่ 0.5-3.0% ส่วนเงินเฟ้อทั่วไปไม่เกิน 1.5-4.5% ถ้าหลุดจากกรอบนี้ต้องควบคุม” นายกิตติรัตน์ กล่าว
ด้านนายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หากรัฐบาลจะขึ้นราคาแอลพีจี ต้องการให้ปรับขึ้นในภาคที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดก่อน เช่น ภาคขนส่ง หรือในภาคอุตสาหกรรม เพราะมีการใช้น้อยกว่าภาคครัวเรือน อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์คำนวณเบื้องต้นแล้วว่า ถ้าจะขึ้นราคาก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน 20-30% ตั้งแต่เดือน ส.ค.นี้จนถึงสิ้นปี จะทำให้เงินเฟ้อปรับขึ้นทันที 0.037% หรือจะทำให้เงินเฟ้อในปีหน้าทั้งปีเพิ่มขึ้น 0.11% รวมถึงจะทำให้ต้นทุนการผลิตอาหารสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นทันทีจานละ 0.25% หรือประมาณ 25 สตางค์เท่านั้น ซึ่งไม่มีผลทำให้ผู้ค้าอาหารปรุงสำเร็จต้องปรับขึ้นราคาขาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น